GRAND & FUNCTION HOUSE

โอ่อ่าและอเนกประสงค์


เส้นราชพฤกษ์เป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีสเปซกว้างขวางพอให้สร้างบ้านหลังใหญ่ระดับคฤหาสน์ย่อมๆ ได้ไม่ยาก ซึ่งบ้านใหญ่ๆ แบบนี้ก็เหมาะกันเสียจริงกับบุคลิกแบบเล่นใหญ่ มีรถคันใหญ่ (สิบกว่าคัน) และในอนาคตที่วางแผนไว้ว่าจะมีครอบครัวใหญ่อย่างดีเจเพชรจ้า-วิเชียร กุศลมโนมัย

เมื่อทีมงาน daybeds ได้เดินทางมาถึงโครงการ พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ ก็ผ่านทางเข้า-ออก โครงการที่มีหน้ากว้างสุดอลังการ เมื่อเข้ามาถึงบ้านของดีเจเพชรจ้าก็ได้ยินเสียงเจ้าของบ้านตะโกนต้อนรับเสียงดังลอดรั้วออกมา (เข้ามาเลยพี่) ประตูรั้วเปิดก็ได้เห็นเจ้าของเสียงรอยืนรออยู่ตรงประตูบ้าน นอกจากตัวบ้านที่โครงสร้างดูสูงใหญ่ ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ Neo-Spanish ที่สะดุดตาแล้ว ก็ยังมีรถนับสิบคันที่จอดเรียงรายซ้อนกันอยู่ถึงสองชั้น เมื่อได้นั่งพูดคุยกับเจ้าของบ้าน ก็ยิ่งเปิดให้เห็นอีกหลายมุมของบ้านที่สะท้อนมากกว่าความโอ่อ่า นั่นก็คือฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้แทบทุกตารางนิ้ว

“บ้านเราแบ่งเป็นสองชั้นครับ มี 5 ห้องนอน และอีก 2 ห้องสำหรับแม่บ้าน ผมแพลนไว้ว่าอยากมีลูก 4 คน ดังนั้นก็เลยเลือกบ้านหลังนี้ที่ค่อนข้างใหญ่และมีพื้นที่ให้ขยับขยายได้อีกในอนาคต บริเวณชั้นล่างก็จะมีห้อง Living Room ที่ใหญ่มากอยู่ตรงกลางบ้าน ซึ่งโดยรวมของบ้านผมอยากให้อินทีเรียร์เป็นอะไรที่ดูหราหรา แต่ก็ดูสบาย น่าอยู่ เพราะผมเคยมีประสบการณ์จากบ้านหลังเก่าซึ่งตกแต่งทุกอย่างให้เป็นสีดำตามที่เราชอบ ผลที่ออกมาคือบรรยากาศจะดูทึมๆ จนใครๆ ที่มาบ้านเราแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนอยู่ในผับมากกว่าอยู่บ้าน ซึ่งหลังจากลงตัวกับการตกแต่งในแบบโปร่งสบายแล้ว ผมกับภรรยา (คุณนิวเคลียร์) ตกลงกันว่าเราจะไม่ซื้อข้าวของที่เป็นความชอบส่วนตัวมาตกแต่งในส่วนนี้อีก อยากให้ตรงนี้เป็นพื้นที่สำหรับทุกคนจริงๆ” ระหว่างพูดคุย คุณเพชรจ้าก็พาเดินสำรวจชมบ้านไปด้วย เราสังเกตเห็นห้องโถงสูงใหญ่ High Ceiling & Double Volume ที่มองทะลุได้ถึงสองชั้นของบ้าน เป็นส่วนที่สร้างความรู้สึกโอ่โถงขึ้นไปอีก ถัดจาก Living Room ก็จะเป็นโซน Grand Dinning Area ขนาดใหญ่ ซึ่งตรงบริเวณนี้ที่สะดุดตาคือเปียโนหลังใหญ่ที่วางอยู่ใกล้ๆ กัน จึงรู้สึกแปลกใจว่ามาดแบดบอยแบบนี้ คุณเพชรจ้าจะเป็นคนเล่นเปียโนหลังนี้เองหรือไม่

“ใช่ครับ เปียโนหลังนี้ผมเล่นเอง ซึ่งหัดเล่นมาได้ประมาณสองปีแล้วครับ ด้วยความที่เราอยากให้ลูกเล่นดนตรี ก็เลยอยากเรียนเอาไว้ก่อน เผื่อไว้คุยไว้สอนเขาได้ สำหรับน้องไทก้า (ลูกชาย) ผมมองอนาคตเขาไว้ให้เขาอยากเป็นในสิ่งที่เป็น แต่ถ้าเป็นเรื่องของการสอนให้เขารักบ้านด้วยน่าจะเป็นสิ่งที่เน้น นิสัยผมเป็นคนรักสะอาด มีระเบียบ ผมก็จะสอนลูกให้เขาเล่น หรือขีดเขียนเป็นที่เป็นทาง จะไม่ให้มาขีดเขียนผนัง หรือตามโซฟาเด็ดขาด” เดินคุยกันมาผ่านมุมของน้องไทก้าไปทางขวาของบ้านก็ทราบได้ทันทีว่าห้องนี้น่าจะเป็นโซนของคุณนิวเคลียร์อย่างแน่นอน เพราะมีกลิ่นอายความเป็น feminine อยู่สูงทั้งของตกแต่ง ผ้าม่าน และยังเป็น Glasshouse ที่สามารถเปิดม่านชมดาวในกลางคน หรือจะรับแสงโปร่งไว้เป็นโต๊ะจิบชาได้ในเวลากลางวัน สำหรับฝั่งซ้ายของชั้นล่างก็จะเป็นโซน kitchen ที่มีสเปซกว้างใช้สอยได้อย่างสะดวก เดินออกจากครัวมาสังเกตเห็นตู้สูงติดกับผนัง คุณเพชรจ้า (ยิ้มกว้าง)

ก่อนที่จะเปิดตู้อวดของสะสมสุดรัก นั่นคือรองเท้าที่วางเรียงราย “ใช่ครับผมเป็นคนบ้ารองเท้ามาก ซึ่งรองเท้าในตู้นี้ทั้งแพทเทิน รูปทรง และรุ่น จะเหมือนกันหมด แตกต่างกันก็คือสีของมัน ผมเป็นคนที่ชอบสะสมรองเท้าดังนั้นเสปซที่จะเก็บเขาไว้ให้พ้นจากแสงแดด อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญ ฟังก์ชั่นที่มีในบ้านหลังนี้จึงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์เรามากๆ เช่นเดียวกันกับการเป็นคนรักรถ และมีรถจำนวนหลายคัน ฟังก์ชั่นของบ้านหลังนี้ก็มีพื้นที่จอดรถให้กว้างมาก ถึงกระนั้นเพราะเรามีรถจำนวนเยอะเกินไป จึงต้องต้องต่อเติมสร้างชั้นสองเพิ่มขึ้นไป และในอนาคตผมยังคิดที่จะสร้างเป็นชั้นใต้ดินเพื่อที่จะสร้างเป็นโรงจอดรถและเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเราอีกด้วย ถ้าจะให้นิยามคำว่า Living Space สำหรับผม มันมีความหมายตรงตัวเลยนะ Living Space ก็ต้องเป็นสเปซที่อยู่ได้จริง ชวนสบาย น่าอยู่ เราเคยมีประสบการณ์แต่งบ้านตามใจฉันมาแล้ว บ้านหลังใหม่หลังนี้จึงเน้นคำนี้มากๆ คือต้องอยู่ได้จริง คนในครอบครัวทุกคน หรือแขกที่มาเยือนเห็นแล้วจะต้องบอกว่าน่าอยู่ และแน่นอนในเรื่องดีไซน์สำคัญ แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือฟังก์ชั่นการใช้งานที่ต้องอเนกประสงค์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของบ้านหลังนั้นๆ ครับ”

คอลัมน์ Living Space ในฉบับนี้อาจไม่ได้สัมภาษณ์สถาปนิก หรืออินทีเรียร์ที่มีความจัดจ้านในแง่การอธิบายเชิงโครงสร้าง หรือทฤษฏีการออกแบบ ทว่า เปี่ยมไปด้วยความจริงใจและเป็นกันเองที่ทีมงาน daybeds ได้รับ และแม้ครั้งนี้อาจไม่ได้พาชมทุกห้อง เพราะน้องไทก้าที่เพิ่งอายุครบเดือนนอนหลับปุ๋ยอยู่ด้านบน แต่คุณพ่อและสามีมาดห้าวคนนี้ก็ได้ทิ้งท้ายได้อย่างขัดแย้งกับบุคลิกเสียเหลือเกิน “นิยามคำว่าบ้านสำหรับผมคือทุกอย่าง มันคือที่ชาร์ทพลัง และก็เป็นที่ปล่อยพลังไปในตัว ผมใช้บ้านหลังนี้คุ้มมาก ใช้ถ่ายทำรายการ ว่ายน้ำ ฟิตเนส ออกกำลังกายในบ้าน และที่สำคัญผมสร้างพื้นที่ความสุขให้ตัวเองและคนในครอบครัวไว้ในบ้านเราจึงสามารถใช้เวลาในบ้านได้เต็มที่…เมื่อไหร่ก็ตามที่เราจะพยายามจะออกจะบ้าน มักจะทำให้คนในบ้านไม่มีความสุข ยิ่งเราไม่อยากอยู่บ้านเท่าไหร่ ยิ่งทำให้คนที่อยู่ในบ้านไม่มีความสุขเท่านั้น แล้วตัวบ้านก็จะไม่มีความสุข” 

Leave A Comment