KIRIN DESIGN & LIVING

คิดต่างอย่างนำสมัย

Text : Doowoper
Photo : ฉัตรชัย เจริญพุฒ, Kirin Design & Living 

ความมีคาแรกเตอร์ วิธีคิด และวิธีการทำงานที่ชัด เน้นความสุข ไม่สร้างข้อจำกัดให้เป็นเครื่องพันธนาการตนเอง จึงไม่แปลกที่คิริน ชัยชนะสามารถสร้างแบรนด์ “Kirin design & living” เข้าถึงผู้รักการตกแต่งบ้านในโลกออนไลน์ได้แบบสบายๆ ทุกผลงานที่ทำ มักสะท้อนให้เห็นแก่นแท้ของความสวยงามแบบตรงไปตรงมา ภายใต้สัญชาตญาณของนักออกแบบประสบการณ์สูง เซ้นส์แรงแถมที่ผ่านมาเขามักถูกเชิญให้ไปบรรยายตามมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึงล่าสุดที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) กับการเสวนา “New Economy, New Designer” ภายใต้โครงการพัฒนานักออกแบบรุ่นใหม่ เข้าถึงลูกค้า เข้าใจดิจิทัล 

ประวัติฉบับย่อก่อนสร้างแบรนด์  

หลังจากเรียนจบ ม. ศิลปากร ผมก็ทำงานเป็นอินทีเรียร์ ดีไซเนอร์ ให้กับบริษัท IA 49 ครับ โดยมีโอกาสทำโปรเจ็คท์เยอะแยะมากมาย อาทิเช่น โรงแรม Novotel, King Power และงานรีเทลต่างๆ พอทำได้ประมาณปีที่ 8 ก็รู้สึกเริ่มอิ่มตัวจึงอยากออกมาพักเหนื่อยอยู่บ้านกับครอบครัว คือไม่มีแพลนงานอะไรทั้งนั้นในหัวเลย (ฮ่าๆๆ)  แค่อยากออกมาใช้ชีวิต พักสักปีเพื่อมีลูกด้วยครับ จริงๆ ตั้งใจไว้แล้วหลายปี แต่คงเป็นเพราะผมโหมงานหนัก จึงทำให้ไม่มีสักที  

 

จุดเริ่มต้นของ KIRIN design & living  

บ้านคุณคิริน

บ้านคุณคิริน

บ้านคุณคิริน

เริ่มจากอยากอวดบ้านของตัวเองครับ ด้วยความที่ว่าง…  (หัวเราะ) ในปี 2015 ผมจึงถ่ายรูปบ้านตัวเองที่เคยรีโนเวทไว้ลงในกระทู้ Pantip  โดยใช้หัวข้อว่า ตึกแถวหน้าปลวก Botox ให้กลายเป็นบ้าน Hipster!!” เท่านั้นล่ะ มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเยอะมาก… คิดว่าคงโดนใจคนไทยหลายคนที่มีบ้านเป็นตึกแถว ซึ่งผมดีไซน์ค่อนไปทางบ้านฝรั่ง รวมถึงวิธีการเล่าเรื่อง ผมจะเขียนสอดแทรกให้เขาสามารถนำไปทำต่อได้ พอมีคนติดตามและอินบ๊อกซ์เข้ามาหลังไมค์หนักมาก จึงเริ่มรับงานจากตรงนี้ และเริ่มนำผลงานบ้านตัวเองไปลงใน FB  จริงๆ เหมือนผมทำ KIRIN design & living ให้เป็นแบรนด์ดิ้งมากกว่า รู้จักเราผ่านผลงานเป็นหลัก ส่วนการทำงาน ผมและทีม (น้องอีกสองคน) ทำงานกันอยู่บ้านใครบ้านมันเลย เพราะเราไม่ชอบการเดินทาง รู้สึกว่าเสียเวลานั่งรถไป-กลับวันละ 2-3 ชั่วโมง นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ผมเลิกทำงานประจำครับ และทุกวันนี้กลายเป็นว่าลูกค้าส่วนใหญ่นึกถึงเราในแง่ของงานรีโนเวทเป็นอันดับแรกๆ เลย   

peak ใน peak สุดบน FB คือผลงานอะไร 

หลังจากลงบ้านผมแล้ว ผมก็รีโนเวททาวน์โฮมให้กับพี่ชายและนำมาลงในเพจ ก็ตู้ม… เช่นกัน คนแชร์เยอะมาก คือแทบไม่ได้ Boots Post เลย แต่ถ้าพีคสุดๆ ที่โพสท์ลงใน FB ต้องงานรีโนเวทบ้านของคุณธนดลครับ (ปี 2016) สเกลค่อนข้างใหญ่ขึ้นมานิดหนึ่ง เพราะเป็นบ้านเดี่ยว 200 ตร.ม. เรียกว่าพลิกหน้ามือเป็นหลังมือสุดๆ ผลตอบรับเกินคาดมาก บ้านหลังนี้ผมทำ Façade เพิ่ม โรงจอดรถมีชัตเตอร์ปิดแบบกลิ่นอายบ้านฝรั่ง รั้วเป็นรั้วต้นไม้ และผมจะถ่ายรูป Before & After ไว้ด้วย จำได้ว่าโพสท์ลงตอนประมาณ 1 ทุ่ม พอไปอาบน้ำ + เล่นกับลูกประมาณสัก 1 ชม. กลับมาดูใหม่ คอมเม้นท์เตลิดไปเป็นพันแล้ว 

บ้านคุณธนดล

บ้านคุณธนดล

บ้านคุณธนดล

DNA สะท้อนความเป็นตัวคุณ

ความใส่ใจในรายละเอียดครับ เป้าหมายของผมไม่ได้ต้องการขยายกิจการให้ใหญ่โต แค่รับงานน้อยๆ แต่เน้นการทำงานให้มันดีทุกงาน ใน Level ที่สามารถลงหนังสือได้ เมื่อคิดด้วยวิธีนี้ วิธีการทำงานเปลี่ยนเลย ที่สำคัญผมไม่ได้ทำงานตามใจเจ้าของบ้านนะ คือถ้าอยากได้บ้านสวยต้องตามใจผม แต่เรื่องฟังกัชั่นแน่นอนต้องอยู่สบาย ดังนั้นลูกค้าต้องเชื่อใจเรา และชอบงานเราจริงๆ ผลงานที่ผ่านมาก็จบด้วยดีทุกครั้ง เมื่อลูกค้าเข้ามาเห็นบ้านตัวเอง เรียกว่าน้ำตาปริบทุกคน ซึ่งเป็นโมเม้นท์ที่ผมประทับใจมาก จากสถานะลูกค้าทุกวันนี้กลายเป็นเพื่อนกันเลยก็มีครับ  

สไตล์ของคุณเป็นแบบใด 

ค่อนข้างหลากหลายครับ ไม่จำกัด และทำไม่ค่อยซ้ำแนวเท่าไหร่ อีกอย่างผมเป็นคนขี้เบื่อก็เลยอยากทำอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดด้วย แต่ถ้าโมเดิร์นมาเลยเนี่ยผมไม่รับ เพราะสมัยทำงานประจำเจอมาเยอะ สะสมความเบื่อมาเยอะแล้ว  (ฮ่าๆๆ) อีกอย่างผมเป็นคนแฟชั่นด้วย ไม่ทำงานแบบ last long ที่ต้องออกแบบมาแล้วสวยอยู่ได้นานเป็นสิบปียี่สิบปี เพราะไม่แคร์เรื่องพวกนั้น ผมแค่อยากให้เจ้าของบ้านได้บ้านที่สวย และมีความสุขที่สุด​ ณ วินาทีนั้นก็พอ ซึ่งปีหนึ่งผมตั้งเป้ารับงานแค่ 15-20 โปรเจ็คท์เท่านั้น และตอนนี้คิวเต็มไปถึงเดือนเมษายนปีหน้าเรียบร้อย ผมเคยลองคำนวณดูว่าลูกค้าที่อินบ๊อกซ์เข้ามาอยากให้ทำงานให้เขานั้นต่อวันเฉลี่ยประมาณ 2 คน แปลว่าเดือนหนึ่งมี 60 คน และต่อปี 700 กว่าคน ซึ่งผมรับไม่เกิน 20 งาน/ปี จึงทำให้รู้สึกว่าเฮ้ย… เรานี่ ‘rare item’ ชัดๆ (ฮ่าๆๆ)  

Pinto

Pinto

Pinto

การทำงานให้มีความสุขต้องทำอย่างไร 

การทำงานที่ตัวเองชอบ ไม่ต้องปวดหัวแต่ได้เงิน และทุกคนเคารพในงานเรา นี่คือสุดยอดชีวิตการทำงานที่มีความสุขที่สุดแล้วสำหรับผม และทุกงานต้องให้อิสระทางความคิด ไม่มาจับมือเราเขียน แค่บอกฟังก์ชั่นที่ต้องการมาว่ามีอะไรบ้าง อยู่ตรงไหน เราก็จะทำให้หมด เคยมีลูกค้าคนหนึ่งโทรมาบอกว่าชอบผลงานผมมาก บ้านเขายังไงต้อง KIRIN design & living เท่านั้น  ฟังแล้วเราก็แฮปปี้ เขาก็แฮปปี้ 

สิ่งที่ให้ความสำคัญที่สุดในเรื่องการออกแบบ

ความสวยงามครับ ส่วนฟังก์ชั่นผมไม่นับนะ เพราะนั่นคือพื้นฐานของนักออกแบบที่ต้องเสิร์ฟให้แก่ลูกค้าอยู่แล้ว บ้านไม่จำเป็นต้องมีคอนเซ็ปท์ก็ได้ แต่การมีคอนเซ็ปท์ก็ไม่ผิดนะ ซึ่งก็เหมาะกับงานบางประเภทมากกว่า  สำหรับสเกลงานที่ทำอยู่ตอนนี้ของผม ต้องการแค่ความสตันนิ่ง ความสวยงาม เจ้าของบ้านเข้าไปต้อง ว้าว… อีกอย่างคือต้อง Cozy ด้วย บรรยากาศสบายๆ เป็นบ้านจริงๆ นอนแผ่ได้ หรือวางหนังสือรกๆ ได้ 

การทำงานที่ตัวเองชอบ ไม่ต้องปวดหัวแต่ได้เงิน และทุกคนเคารพในงานเรา นี่คือสุดยอดชีวิตการทำงานที่มีความสุขที่สุดแล้วสำหรับผม

นอกจากผลงานบ้าน คุณมีผลงานอะไรอีกบ้าง

งานพวกโฮสเทลต่างๆ ครับ รวมถึงปีที่แล้วก็มีแบรนด์ VECO ผู้ผลิตสินค้าอุปกรณ์ประตู/หน้าต่าง ติดต่อชวนให้มาออกแบบมือจับคอลเลคชั่นพิเศษ ผมรีบตอบตกลงเลยทันที ไม่ต้องรอคิวครับ เพราะเป็นความใฝ่ฝันของตัวเองเลย ผมรู้สึกว่ามือจับประตูในตลาดปกติทั่วไปดูไม่ค่อยมีดีไซน์ให้เลือกเท่าไหร่ และไม่ค่อยแตกต่างกันเลย แล้ววันหนึ่งผมได้ทำเอง จึงรู้สึกสะใจมาก… สำหรับคอลเลคชั่น VECO X KIRIN ผมดีไซน์ขึ้นทั้งหมด 6 แบบครับ แต่ละแบบเรียกว่าไม่ซำ้กัน เปลี่ยนทั้งรูปทรงยันถึงไส้ในเลย สนุกและยินดีมากครับงานนี้ 

ผลงานที่ท้าทายของคุณคือ

ผมไม่มีโมเม้นท์นี้เลยครับ ทุกงานสบายๆ  จึงไม่รู้สึกว่างานใดดูยากเหลือเกิน นั่นเพราะงานที่ทำให้หนักหัว ผมไม่รับตั้งแต่แรกเลยด้วยซ้ำ (ฮ่าๆๆ ) ทุกงานที่รับทำจึงเป็นงานที่รู้สึกสนุกมากกว่า เพราะเป็นงานที่เราอยากทำมันจริงๆ ครับ  

บ้าน Bothnewyear

บ้าน Bothnewyear

บ้าน Bothnewyear

บ้าน Bothnewyear

สิ่งที่ยากที่สุดในงานรีโนเวท 

เจ้าของบ้านครับ ทุกวันนี้ผมเลือกงานนะ ไม่ทำอะไรก็ได้แล้ว เพราะปัญหาของการทำงานไม่ได้อยู่ที่ความยาก/ง่ายของหน้างาน ในแง่โครงสร้างหรือแง่ปฏิบัติสามารถทำได้หมด แต่คนที่จะไม่ทำมีคนเดียวคือเจ้าของบ้าน เพราะมักมีข้ออ้างที่มาจากความเคยชิน เดี๋ยวนี้ผมจึงเลือกลูกค้า เพื่อตัดปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งต้องเป็นลูกค้าที่แมชท์กันจริงๆ ชอบผลงานเรา และอยากมีบ้านที่ดีไปด้วยกัน ดังนั้นผมจึงชัดเจนไปเลย ทำกับคนที่มีความสุขกับเรา และเราก็มีความสุขกับเขา จบ.

ถ้าไม่ใช่นักออกแบบ อาชีพในฝันของคุณคือ 

ผมอยากเป็นนักเขียนการ์ตูนครับ ความจริงแล้วเมื่อก่อนผมอยากจะเข้านิเทศน์ศาสตร์นะ แต่พอติวไปติวมารู้สึกว่าอินทีเรียร์หางานง่ายก็เลยเลือกทางนี้ ซึ่งในความฝันของผมเนี่ย อยากไปเป็นนักเขียนการ์ตูนอยู่ญี่ปุ่นเลย แม้ทุกวันนี้ไม่ได้มีเวลาเขียนเหมือนก่อน แต่ก็ยังซื้อโมเดลมาสะสม ซึ่งก็ดีมากเพราะผมมีลูกชายด้วย นอกจากซื้อของเล่นให้ตัวเองแล้ว ลูกผมก็ยังได้เล่นด้วย (ฮ่าๆๆ) 

Leave A Comment