VIBRANT VISION

“พลิกโฉมสู่ความมีชีวิตชีวา”

 

Text: Doowoper
Photo: ฉัตรชัย เจริญพุฒ
Design: วิษณุ ภู่ประสิทธิ์ A.l. Co.,Ltd. (Agelus Interactive) โทร. 0 2405 4514 

เดิมทีเป้าหมายคือการขยับลุคโรงจอดรถที่ทรุดตัวให้คืนสภาพปกติ แต่กลับพบร่องรอยแผลที่เกิดจากความเก่าโทรมของตัวบ้านทีละจุดๆ แผนการจึงเปลี่ยนทิศ เร่งเดินหน้าสู่โหมดการรีโนเวทครั้งสำคัญ พลิกโฉมใหม่ทั้งหมด! กลายเป็นบ้านกลิ่นอายโมเดิร์น ยืนตัวเท่ทระนง ผิดแผกจากเค้าเดิมโดยสิ้นเชิง 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการออกแบบบ้านหลังนี้ไอเดียมิใช่มาจากฝีมือสถาปนิกคิวทองแต่แบบทั้งหมดตกผลึกทางความคิดมาจากคุณเอ๊ด-วิษณุภู่ประสิทธิ์เจ้าของบ้านผู้ทำงานสายโฆษณาซึ่งเปิดบริษัทในรูปแบบดิจิตัลเอเจนซี่รับวางแผนเรื่องการตลาดทำแคมเปญ  เว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่น โมบายต่างๆ  แต่ด้วยอุปนิสัยชอบพอในงานด้านดีไซน์ แถมเคยร่ำเรียนด้าน Applied Art จึงทำให้เขาพอมีพื้นฐานด้านการออกแบบติดปลายนวมมาอยู่บ้าง  ก่อนทำบ้านเนี่ย ผมเคยออกแบบออฟฟิศของตัวเองมาก่อนครับ พอลูกค้าได้เข้ามาเห็นก็ชอบ จนกระทั่งติดต่อให้เราไปทำให้เขาบ้าง จุดประกายให้ผมเริ่มศึกษางานด้านนี้เพิ่มขึ้น จนมีประสบการณ์การออกแบบติดตัวมาเรื่อยๆ กลายเป็นงานอดิเรกไปโดยปริยาย แต่ตอนนี้เริ่มจริงจังแล้วล่ะครับ (หัวเราะ)” คุณเอ๊ดเท้าความก่อนเข้าเรื่อง 

สำหรับบ้านหลังนี้เดิมทีเป็นโครงการบ้านจัดสรรที่ผมอยู่อาศัยมา 10 กว่าปีแล้ว โดย 4-5 ปีก่อน ผมมีการต่อเติมหลังคาโรงจอดรถไว้ จนวันหนึ่งสังเกตเห็นว่าพื้นที่รอบบ้านและโรงจอดรถเกิดการทรุดตัวอย่างหนัก ผมจึงชั่งใจระหว่างการหาที่อยู่ใหม่ หรือทำการรีโนเวท สุดท้ายลงเอยอย่างหลัง เพราะทุกวันนี้บ้านสเกลเดียวกัน มีระดับราคาค่อนข้างแพง แถมพื้นที่เล็กกว่าอีกต่างหาก  เมื่อคิดสะระตะแล้ว คุณเอ๊ดจึงทำการปรึกษาวิศวกร วางแผนรื้อโรงจอดรถ โดยมีการลงเสาเข็มใหม่ก่อนตัดสินใจทำส่วนต่อเติมชั้นบน ทำเป็นห้องนั่งเล่น/รับแขก (เหนือโรงจอดรถ) เพิ่มเติมเพื่อความคุ้มค่า โดยมีวิศวกรคอยดูแลเกี่ยวกับเรื่องโครงสร้าง ช่วยหาเทคนิคในการเชื่อมต่อส่วนขยายตามโจทย์ที่เขาต้องการ ระหว่างทำโรงจอดรถและต่อเติมชั้นบน ผมก็มีการปรับแบบไปเรื่อยๆ จนปิ๊งไอเดีย คิดอยากทำบันไดหน้าบ้าน เพื่อใช้เป็นทางเดินขึ้นสู่ชั้นสองเพิ่มเติมครับ เพราะคิดว่าสะดวกสบายดี ไม่ต้องเดินผ่านเข้าตัวบ้านให้ยุ่งยาก 

“งานรีโนเวท ไม่ใช่เรื่องง่าย อันดับแรกควรตรวจเช็คโครงสร้างเก่าให้ละเอียดซะก่อน ไม่ว่าจะเป็นพื้น คาน ระบบน้ำ ระบบไฟ  ที่สำคัญก่อนรีโนเวทหรือต่อเติมบ้าน ควรปรึกษาวิศวกรด้วย”

แต่สเต็ปแรกไม่ทันเสร็จ กลับพบปัญหารอยร้าวตรงบริเวณผนังชั้นบน (บริเวณห้องพระ) พอเปิดฝ้าดู คานที่ยาวประมาณ 7 เมตร ดันตกท้องช้าง วิศวกรจึงแนะนำให้ทำการทุบผนังเดิมออก และเปลี่ยนเป็นผนังเบา (Viva Board) ทั้งหมด เพื่อลดทอนน้ำหนักลงครับ จากเป้าหมายแค่โรงจอดรถจึงเริ่มลามเข้าไปด้านใน สู่พื้นที่ด้านล่าง สุดท้ายผมจึงตัดสินใจปรับโฉมใหม่ทั้งหมดคุณเอ๊ดเล่าพลางค่อยๆ อธิบายถึงการปรับแปลนและโยกย้ายพื้นที่ใช้สอยแต่ละส่วนของบ้านเพิ่มเติมทีละสเต็ปๆ 

โดยชั้นล่างบริเวณพื้นที่รับประทานอาหาร (จากเดิมเป็นพื้นที่นั่งเล่น) มีการทุบผนังบางส่วนทิ้งและกรุกระจกบานใหญ่เข้าไปแทนที่เพื่อเปิดรับพื้นที่สีเขียวด้านนอกรวมถึงสามารถมองเห็นรถคันโปรดของคุณเอ๊ดในโรงจอดรถได้ตลอดเวลา (สนองความต้องการของคนรักรถล้วนๆ) ส่วนพื้นที่นั่งเล่นด้านในสุดคุณเอ๊ดได้ติดตั้งประตูกระจกแบบบานผลักเพิ่มเติมซึ่งไม่เพียงทำให้พื้นที่โปร่งโล่งเท่านั้นแต่ยังสามารถเปิดรับลมธรรมชาติเกิดการถ่ายเทอากาศภายในได้ดียิ่งขึ้นแถมห้องนอนใหญ่ชั้นบนมีการต่อเติมขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้นเนรมิตเป็นมุมนั่งเล่นในห้องนอนที่ดีไซน์เพดานเป็นแบบ Double Volume สูงจากพื้นจรดเพดานประมาณ 7 เมตรแถมขยายพื้นที่แต่งตัวโดยดันขยับผนังเบาค่อนไปทางห้องพระมากขึ้นรวมถึงทลายกำแพงห้องน้ำทั้ง 2 ห้องที่อยู่ติดกันรวมเป็นห้องเดียว (ห้องน้ำด้านนอกและห้องน้ำในห้อง)  พร้อมกับดีไซน์อ่างล้างหน้าให้มี 2 อ่าง สำหรับรองรับการใช้งานร่วมกับภรรยาได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น งานรีโนเวท สำหรับผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อันดับแรกควรตรวจเช็คโครงสร้างเก่าให้ละเอียดซะก่อน ไม่ว่าจะเป็นพื้น คาน ระบบน้ำ ระบบไฟ  ที่สำคัญก่อนรีโนเวทหรือต่อเติมบ้าน ผมแนะนำว่าควรปรึกษาวิศวกรด้วย เพราะบางกรณีที่เราคิดและออกแบบก็ใช่จะทำได้ทุกอย่างเสมอ เช่น ผมไม่อยากให้มีคานบางจุด เพราะต้องการให้พื้นที่ดูโล่งๆ แต่จุดนั้นมันจำเป็นต้องมีคานรับน้ำหนัก ซึ่งก็ไม่สามารถทำได้ เป็นต้น คุณเอ๊ดพูดถึงเรื่องหัวใจการรีโนเวทบ้าน 

และเมื่อทีมงานถามถึงการตกแต่งภายในเขาอธิบายให้ฟังว่าด้วยความที่ชอบในเรื่องของการใช้วัสดุไม้ ฉะนั้นการตกแต่งภายในผมจึงยึดเอาโทนสีของบานเฟี้ยม ตู้บิลท์อิน โต๊ะ และพื้น ที่ทำจากวัสดุไม้ตั้งเป็นเกณฑ์ และนำมาย้อมสีใหม่เพื่อคุมโทนทั้งหมด ทีแรกคิดทาผนังสีขาวทั้งบ้าน แต่รู้สึกว่ามันจะดูสว่างไร้มิติ ผมจึงใช้วิธีบาลานซ์สีแทน โดยใช้โทนสีฟ้า และเทาอมฟ้ามาเบรกผนังบางจุด เพื่อสร้างให้เกิดมิติที่แตกต่างกัน ส่วนสไตล์ตกแต่งโดยรวมก็คือโมเดิร์นนี่ล่ะครับ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ในนี้ผมจะเป็นคนเลือก แต่ก็จะพาภรรยาไปด้วยเพื่อสอบถามเขาว่าสิ่งที่ผมเลือกถูกใจเขาด้วยหรือไม่ 

บ้านหลังนี้นอกจากมีการแก้ไขปรับลุคจนเข้าที่เข้าทางแล้ว ยังมีรายละเอียดยิบย่อยที่น่าสนใจอีกเพียบ ต้องบอกว่าคิดมาอย่างละเอียดลออ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งประตูให้เห็นบังใบที่ดูแปลกตา การฉาบผนังเบาที่มอบเท็กซ์เจอร์เสมือนพื้นผิวปูน การทำฟาซาด (Facade) ข้างบ้านสำหรับบังแดด/ฝนที่สามารถปรับระดับได้! การออกแบบบันไดเหล็กหน้าบ้านไร้เสาค้ำเพื่อไม่ให้บดบังต้นไม้ที่ปลูกอยู่ด้านล่าง หรือการออกแบบทางเดินตรงส่วนต่อเติมเป็นแนวเฉียงเพื่อเปิดพื้นที่ให้กว้างขึ้น รวมถึงการนำเศษเหล็กที่เหลือจากการทำโรงจอดรถมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยดีไซน์เป็นขาโต๊ะวางทีวีและม้านั่งได้สวยงาม ฯลฯ ทุกอย่างล้วนเกิดจากแนวคิดของคุณเอ๊ด ผู้มีหัวใจรักงานดีไซน์ ซึ่ง ณ เวลานี้ เขามีคิวงานรีโนเวทบ้าน จองตัวให้ไปช่วยทำอีกหลายหลัง ฮ็อตไม่แพ้นักออกแบบมืออาชีพทีเดียว  

 

 

Leave A Comment