LIMA DUVA

สร้างอารมณ์จากผืนทราย

ป่วยการที่จะหาคำตอบว่าใครเป็นผู้ริเริ่มตั้งวลีติดหูให้กับเกาะที่ไม่ว่าใครจะมาก็เสร็จแทบทุกราย ‘เกาะเสม็ด’ บนทะเลอ่าวไทยเป็นอีกหนึ่งเกาะยอดนิยมที่ทุกคนต้องนึกถึงเมื่อเอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวทะเลสวย อย่างไรก็ตาม วลีประจำเกาะที่ว่า ก็ได้บรรยายภาพบรรยากาศของความโรแมนติก ปนความซุกซนอย่างมีเสน่ห์ชวนให้หลายคนตกหลุมรัก

หาดทรายขาวราวกับแก้วกอปรกับเรื่องราวรักๆใคร่ๆในวรรณคดีเก่าแก่ ทำให้มีผู้ขนานนามว่าเกาะเสม็ดนั้นเป็นเสมือนภาพฉากสมมุติของ ‘เกาะแก้วพิสดาร’ ในนิทานปรัมปรา ยิ่งส่งให้ภาพบรรยากาศของความโรแมนติกภายในเกาะชัดเจนขึ้นจนเป็นที่ร่ำลือ บนผืนหาดทรายแก้ว ชายหาดที่ได้ชื่อว่าไม่เคยหลับไหล ด้วยผู้คนที่พลุกพล่านตลอดเวลาทำให้ตลอดแนวชายหาดที่ยาวกว่า 800 เมตร คึกคักไปด้วยกิจกรรมที่มีให้ทำตลอดตั้งแต่ช่วงกลางวันจนถึงกลางคืน ความงดงามประทับใจของทรายสีขาว ทำให้ให้หาดทรายแก้วเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญที่นักท่องเที่ยวผู้มุ่งเดินทางมายังเกาะเสม็ดแทบทุกคนต้องมาเยือน ไม่ใกล้ไม่ไกลจากรีสอร์ท ‘Lima Bella’ ขยับเข้ามาจากหาดประมาณ 300 เมตร สถาปัตยกรรมหน้าตาทันสมัยปรากฏแทรกตัวขึ้นบนฉากหลังสีเขียวชะอุ่ม เพียงได้เห็นฉากหน้าอันใหญ่โตของอาคารสีขาวสะอาด ที่ผสานไปกับองค์ประกอบที่ปั้นแต่งจากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นต้นไม้น้อยใหญ่หรือผนังหิน ก็บอกได้ทันทีว่า เรื่องราวเก่าก่อนที่เก็บงำไว้เบื้องหลังรีสอร์ท ‘Lima Duva’ โดยฝีมือนักออกแบบสถาปัตยกรรม IDIN Architects ต้องน่าสนใจไม่แพ้หน้าฉากสีขาวบริสุทธ์ผืนใหญ่ผืนนี้เป็นแน่

ตั้งแต่ก้าวแรก กล่องสีขาวเรียบทึบชิดติดถนนในส่วนของล็อบบี้ ทำหน้าที่เป็นเหมือนประตูต้อนรับ มุมมองที่ถูกบีบให้เสมือนว่าเหลือเพียงประมาณระดับสายตา เป็นลูกเล่นของมุมมองทางเข้าที่สถาปนิกสร้างสรรค์ขึ้น กระตุ้นให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นให้กับผู้คนที่ผ่านไปมาได้อย่างน่าสนใจ การเข้าถึงที่คล้ายว่าต้องมุดหัวเข้าไปในที่แคบ แล้วค่อยๆมอบการรับรู้ที่กว้างขึ้น เผยพื้นที่ที่อยู่ภายในที่กว้างขวาง สร้างความน่าใจและภาพจำที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับการเข้าถึงอาคาร ต้นไม้เดิมที่ถูกกล่องสีขาวล้อมไว้ ได้มอบบรรยากาศอันเป็นคุณประโยชน์จากการเก็บรักษาชีวิตของผู้ที่มาอยู่ก่อน เงาสีเทาอ่อนเข้มที่ละเลงลงบนฉากสีขาว บอกเวลาที่เคลื่อนผ่านไปในแต่ละวันด้วยร่มเงาระริกพริ้วตามแรงลมพัดเอื่อย ยอดไม้ที่เสียดแทงทะลุกรอบอาคารสีขาวสะอ้าน โยกขยับแผ่วเบาเหมือนกวักมือต้อนรับคู่รักและครอบครัวที่แวะผ่านมาในวันหยุดพักผ่อน เบื้องหลังกล่องล็อบบี้สีขาวหน้าตาทันสมัยนี้ ผนังขาวในด้าน Courtyard ยังสามารถใช้ฉายโปรเจคเตอร์ สำหรับการชมภาพยนตร์ หรือ กิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆได้อีก ในยามค่ำคืน

เรื่องโรแมนติกที่เกี่ยวพันกันอย่างน่าประหลาดของเกาะเสม็ด อันได้แก่ วลีติดหูที่พ้องกับชื่อเกาะอย่างไม่ทราบที่มาที่ไป ผนวกกับความเชื่อที่ว่า ฉากโรแมนติกระหว่างตัวพระกับนางเงือกในวรรณคดีไทยเก่าแก่ ‘พระอภัยมณี’ ที่ประพันธ์โดย พระสุนทรโวหาร หรือ สุนทรภู่นั้น อ้างอิงมาจากฉากอันสวยงามของชายหาดเกาะเสม็ดนี้เอง เป็นแรงบันดาลใจให้กับความต้องการสร้างที่พักเพื่อกลุ่มลูกค้าที่ชอบบรรยากาศของความโรแมนติก ให้สถาปัตยกรรมเป็นเสมือนฉากเล่าเรื่องของวรรณคดีเรื่องดัง สถาปนิกได้จับเอาเรื่องราวที่ว่า รังสรรค์เป็นพื้นที่กิจกรรมที่ยืดหยุ่นและหลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อคู่รัก ในขณะเดียวกัน ด้วยความเรียบง่ายขององค์ประกอบ และบรรยากาศที่พอเหมาะพอดี แขกผู้พักอาศัยที่มาเป็นครอบครัว ก็สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างไม่ได้รู้สึกว่าขัดเขินหรือแปลกแยก

โทนสีเรียบง่ายของอาคาร มอบความสงบให้ผู้คนที่ต้องการหลบหลีกความวุ่นวายจากภายนอก สีพื้นฐานอย่าง ขาว เทา ดำ กล่อมชีวิตในสถาปัตยกรรมให้กลับคืนสู่ความเรียบง่าย สีธรรมชาติของคอนกรีต ไม้ เหล็ก และกระจก ส่งเสริมให้อาคารมีความทันสมัย ในขณะเดียวกันก็สร้างความกลมกลืน ลดทอนอาคารให้ราบเรียบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพื้นที่สีเขียวได้อย่างแยบยล แลนด์สเคปไล่ระดับความสูงต่ำเป็นขั้นบันไดสลับซับซ้อน แบ่งส่วนการใช้งานของแต่ละอาคารออกจากกันได้อย่างมีมิติน่ามอง สร้างการรับรู้ด้านมุมมองใหม่ๆ ให้รู้สึกเสมือนว่าพื้นที่นั้นมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

แสงและเงาที่ลอดผ่านอิฐช่องลมที่จัดเรียงอย่างได้จังหวะจะโคน บนผนังของช่องทางเดินรอบอาคาร สร้างความรับรู้ที่แปลกใหม่ให้แก่ทางเดินรอบอาคาร แสงแดดที่ลอดผ่านถูกกรองด้วยองศาของอิฐช่องลม ลดความจ้าจากแสงแดดก่อนที่จะตกกระทบโดยตรงต่อผิวอาคาร ในขณะที่ยังได้ความสว่างจากแสงที่สะท้อนไปมาภายในบริเวณทางเดินอย่างเต็มที่ ริ้วของแสงที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดตามช่วงเวลา เติมชีวิตให้กับอาคารอย่างเป็นธรรมชาติ มอบประสบการณ์ให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างไม่ซ้ำกันทั้งขาไปและขากลับ นอกจากนั้น Façade ที่เกิดขึ้นจากอิฐช่องลม ยังได้มอบพื้นผิวที่แปลกตาชวนมองและให้ความสงบที่เกิดจากวัสดุเรียบง่ายอย่างคอนกรีตไปในเวลาเดียวกัน

บนฉากหน้าของอาคารห้องพัก กรอบกระจกบานใหญ่ให้ความรู้สึกหวือหวามากขึ้นเมื่อถูกนำมาใช้กับห้องพักที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แสงแดดอ่อนๆสะท้อนจากสระว่ายน้ำฉาบลงบนรูปด้านของห้องพัก หยอกล้อไปกับ Façade ที่เกิดจากการแยกกล่องแต่ละกล่องยืดหดและเฉียงสลับไปมาอย่างมีมิติ เน้นส่วนใช้งานของแต่ละห้องให้แยกจากกันอย่างชัดเจน ขีดคั่นแต่ละกล่องด้วยระเบียงเล็กๆที่มีลักษณะกึ่งกลางแจ้ง เพื่อให้ผนังของแต่ละห้องแยกออกจากกันได้โดยสิ้นเชิง มอบความรู้สึกเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัยในแต่ละห้องได้สูงสุด นอกจากนั้น ห้องพักในพื้นที่ชั้นล่าง ยังถูกออกแบบให้เป็นห้องที่สามารถเข้าถึงสระว่ายน้ำได้โดยสะดวก ประกอบกับ Jacuzzi ส่วนตัวเฉพาะสำหรับคน 2 คน กระเบื้องสีดำสนิทช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคู่รักที่ไม่ต้องการถูกรบกวน อารมณ์ของสระว่ายน้ำจึงถูกออกแบบมาเพื่อขับเน้นความเป็นส่วนตัวของพื้นที่ให้ชัดเจน โดยการไล่เรียงสีของกระเบื้อง จากอ่อนสุดไปเข้มสุด สีของกระเบื้องจะค่อยๆเพิ่มความเข้มขึ้นเรื่อยๆเมื่อไล่มาถึงบริเวณสุดท้ายที่เป็น Jacuzzi ส่วนตัว

“กอดประทับกับกายสายสวาท นุชนาฏถนอมจิตสนิทสนอง เสน่ห์แนบแอบเอียงเคียงประคอง ตามทำนองสองสนิทไม่บิดพลิ้ว อัศจรรย์หวั่นไหวไม่เร่งรัด เป็นลมพัดเรื่อยเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยฉิว ช่อใบไม้ไหวกระดิกริกริกริ้ว ระหวยหิวหอบระเหยเลยหลับไป” ผู้ออกแบบมอบโทนสีอบอุ่นเรียบง่ายให้กับอินทีเรียดีไซน์ภายในห้องพักทั้ง 48 ห้อง ลดทอนบรรยากาศลงด้วยวัสดุพื้นฐาน ปูนเปลือย ไม้ ฝ้าและผนังสีขาว สะกดบรรยากาศให้สงบสุขุม เติมอารมณ์สนุกให้ห้องพักอย่างพอเหมาะพอดี ด้วยกลอนจากบทอัศจรรย์ ในฉากระหว่างพระอภัยมณีและนางเงือกในหลากหลายบท ขับกล่อมผู้เข้าพักให้เคลิ้มหลับอย่างนุ่มนวลเหมือนอยู่ในนิทาน

น่าฉงนว่า ชื่อเสียงของเกาะเสม็ดนั้น ไปเกี่ยวพันกับเรื่องโรแมนติกได้อย่างไรและตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่มีใครทราบ แต่ที่แน่ๆก็คือ ไม่ว่าใครต่อใครจะเดินทางมาเที่ยวที่เกาะชวนฝันแห่งนี้ ในห้วงเวลาใดก็ตาม ก็เห็นเป็นต้องเคลิ้มไปกับบรรยากาศรักๆใคร่ๆ ตามแบบฉบับของเกาะ ชนิดที่ต้อง ‘เสร็จ’ ให้กับเกาะทุกรายเป็นแน่