MY WAY AROUND THE PIANO

ชีวิตที่ไม่เคยห่างจากเปียโนของคริสโตเฟอร์ จันวอง แมคคิแกน


การเดินทางไปสู่เป้าหมายในชีวิตของแต่ละคนนั้นย่อมมีเส้นทางที่ต่างกัน หลายคนอาจเดินทางตรง ตามแบบที่มีคนวางไว้ แต่หลายคนกลับไม่เป็นเช่นนั้น อย่างเช่นหนุ่มดีกรีดอกเตอร์ป้ายแดง จากRice University, in Houston Texas USAทางด้านดนตรี เปียโนคลาสสิกคนนี้ คุณคริสโตเฟอร์ จันวอง แมคคิแกน ผู้ซึ่งค้นหาเส้นทางในแบบของเขาเอง จนมีทักษะความสามารถมากกว่าการเป็นนักเปียโน งานที่ทำอยู่ในตอนนี้ จึงรัดตัวจนแทบไม่มีวันหยุด “อาชีพหลักของผมตอนนี้ก็คือนักเปียโนนั่นแหละครับ เพียงแต่บทบาทที่เพิ่มเข้ามาคือการได้เป็นอาจารย์สอนเปียโน อยู่ที่ piano academy of bangkok ทองหล่อ 13 ตึกhome placeควบคู่กับการเล่นคอนเสิร์ต และทำงานด้านโปรดักต์ชั่นเป็นผู้กำกับงานโฆษณา และมิวสิควิดีโอด้วยครับ ซึ่งการทำอะไรหลายอย่างแบบนี้ก็มีที่มาจากการที่ผมได้ลองค้นหาตัวเองตั้งแต่ในวัยเด็ก ผมออกมาจากโรงเรียนตั้งแต่10 ขวบ และเปลี่ยนมาเรียนในรูปแบบhome school ซึ่งระหว่างนั้นก็มีเหตุการณ์หลายอย่าง เช่นตอน 12ขวบ ผมก็เริ่มรับ jobเรียกว่าเป็นหมวกใบแรกที่เริ่มสวมก็คือมือปืนรับจ้าง รับเล่นเปียโนจนหาเงินได้เป็นแสน หลังจากนั้นก็เริ่มอยู่ในวงการโฆษณาบ้าง มีครั้งหนึ่งเกือบได้ทำเพลงเป็นจริงเป็นจังเลยครับ”
ฟังแค่chapter แรก ก็รู้สึกว่าเป็นชีวิตที่สนุก และน่าติดตามมาก แล้วอะไรที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของผู้ชายที่ชื่อคริสโตเฟอร์ครับ
“ตอนเรียน home school ผมเคยเกเร ไม่อ่านหนังสือเลยถึง6 ปี หลงทางไปช่วงหนึ่ง แต่ยังโชคดีที่มีสิ่งหนึ่งที่คอยยึดเหนี่ยวผมไว้ตลอด นั่นก็คือดนตรี ที่คอยดึงผมกลับมา สิ่งที่พิสูจน์ได้ดีก็คือตอนที่ผมหยุดเล่นเปียโนไป 2ปี ความรู้สึกที่เกิดขึ้นก็คือsoul หรือวิญญาณในตัวเรามันหายไป ทำให้ผมตัดสินใจเอาดีทางด้านนี้ และไปเรียนต่อดนตรีคลาสสิกที่เมืองนอกตอนอายุ 20 ปีครับ ทั้งเรียนและแข่งขันอยู่ในสังคมที่จริงจัง จนเรามองดนตรีด้านอื่นว่าไม่มีค่า ตรงข้ามกับใจลึกๆ ที่ก็แอบชอบดนตรีรูปแบบอื่นเหมือนกัน เมื่อกลับมาเมืองไทย ผมจึงเริ่มหันมานำเสนอดนตรีคลาสสิกในรูปแบบใหม่ที่เข้าถึงง่าย ให้มีกลิ่นอายความเป็นป็อบมากขึ้น เริ่มถ่ายทำมิวสิควิดีโอเอง ซึ่งในขณะเดียวกันก็ได้ร่วมงานกับวงจีบ (เพลงคลาสสิก จีบคนกรุงเทพ) ซึ่งนำเสนอในคอนเซ็ปต์music is everywhere เราไปเซอร์ไพรส์คนดูด้วยการตระเวนไปเล่นตามตลาด ห้าง สนามบิน สี่แยก ปรากฏว่าคนฟังชอบก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากครับ
จริงๆ ตอนที่กลับมาอยู่เมืองไทยผมก็เริ่มสอนเปียโนเต็มตัวแล้ว ควบคู่ไปกับการเป็นคนคิด contentและกำกับมิวสิควิดีโอ ทำงานโปรดักต์ชั่นไปด้วย จนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน วันหยุดที่ไม่เกี่ยวกับงานเลยก็คือการเล่นเกมส์ครับ ซึ่งเก้าอี้นั่งเล่นเกมส์ของผมก็คือเก้าอี้เปียโนนี่แหละครับ เมื่อวางมือจากเกมส์ ผมก็สามารถหมุนตัวจากเก้าอี้ตัวเดิมหันมาเล่นเปียโนซึ่งวางอยู่อีกฝั่งได้ และด้วยความที่ที่บ้านเปิดสตูดิโอบันทึกเสียงได้ เมื่อวางมือจากเปียโน ผมก็หันกลับมาที่คอมพิวเตอร์แล้วเริ่มทำงานตัดต่อ บันทึกเสียงได้เลย เพราะฉะนั้น ถ้าจะถามว่าdaybed ของผมคืออะไร แน่นอน daybed ของผมก็คือเก้าอี้เปียโนนี่แหละครับ ที่เป็นตรงกลาง เชื่อมชีวิตในแบบผมไว้ด้วยกัน ผมรู้สึกสบายและเป็นตัวเองที่สุดเมื่อได้นั่งที่เก้าอี้ตัวนี้ครับ”

Leave A Comment