SUR (REAL)

take a seat  

ความสุข ความฝัน ความมุ่งมั่น

Text: พีรยา เชื้อสุนทรโสภณ
Photo: ฉัตรชัย เจริญพุฒ

ในบรรดาคลื่นลูกใหม่ของวงการออกแบบ ผลงานของ ‘SUR’ เตะตาและดึงดูดให้ daybeds อยากมาทำความรู้จัก ซึ่งจุดนัดพบของเราอยู่ที่ Casa Lapin ร้านกาแฟสุดฮิปใจกลางอารีย์ กับหญิงสาวร่างเล็ก บุคลิกทะมัดทะแมง คุณพรีม-จีรชา สมรรคบุตร ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ SUR อันโดดเด่นด้วยงานปั้นเรซิ่นที่เน้นฟังก์ชันในแบบเซอร์เรียล

DSCF2307re

“ตอนแรกจบมาทำกราฟิก แต่ว่ามันไม่ใช่ เหมือนมันมีอยู่ในหัวตลอดเวลาว่าอยากทำงานศิลปะ เราเลยออกจากงานมาแล้วก็ปั้นเลย” จากความชื่นชอบในงาน 3 มิติ มาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกภาพพิมพ์ ที่แม้จะไม่ได้จบมาทางสายปั้นหรือเซรามิก แต่ความชอบผลักดันให้เธอเรียนรู้ ลองผิดลองถูก จนงานเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

“ความยากมันอยู่ที่ระยะเวลาในการทำ พอเราไม่ได้จบตรงสาย เรียกว่าเราเป็นคนที่ไม่ได้ชำนาญมาก ตอนเริ่มเลยทุลักทุเลหน่อย แต่ตอนนี้เราก็ชำนาญมากขึ้น เรามีคิดไว้ตั้งแต่ตอนเริ่มทำแล้ว ว่าเราไม่ได้ทำเป็นโรงงาน เราอยากให้ลูกค้าได้ของที่เป็นงานศิลปะ  ซึ่งเราก็คงไม่ได้ทำเป็นแมสโพรดักชั่น งานแต่ละชิ้นจะว่าเป็นชิ้นเดียวในโลกก็ได้ เพราะเราทำเองทุกขั้นตอน เราเพ้นต์ทีละชิ้น ถึงแพตเทิร์นมันจะซ้ำแต่ดูไปลายมันก็ไม่เหมือนกัน”

ass

การทำงานของคุณพรีมจึงเน้นที่ความชอบตัวเองเป็นหลัก เพราะเสน่ห์งานปั้นของเธออยู่ที่ดีไซน์ “ตอนนี้พรีมรู้สึกว่าเรามาทางสายดีไซเนอร์ หรือเราจะเป็นอาร์ติสท์ดี ซึ่ง 2 คำนี้เรารู้สึกว่ามันใกล้ๆ กันนะ แต่ว่ามันต่างกัน ตอนนี้เลยเลือกเอียงไปทางอาร์ติสท์อยู่ แนวคิดที่กำลังจะเกิดขึ้นก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาจะเก็ตหรือเปล่า แต่ว่าเราอยากทำ เรามั่นใจว่าเราทำแล้วมันต้องสวย พรีมเป็นคนที่ลุคอาจไม่ได้เป็นคนมั่นใจในตัวเอง ไม่ได้เป็นผู้หญิงเก๋ขนาดนั้น แต่ว่ามีความมั่นใจในไอเดียตัวเองสูงมาก อันนั้นมันคือสิ่งที่ทำให้เราเริ่มทำ มั่นใจว่าสวยแน่นอน ความมั่นใจต้องมาก่อนแล้วงานจะตามมาเอง แล้วเราจะรู้แล้วว่าอันนี้ไม่เวิร์ก หลังๆ เราเลยไม่ได้ทำงานเอาใจใคร เราทำงานเอาใจตัวเอง เพราะเรารู้สึกว่าถ้าเราว่ามันสวย คนอื่นก็ต้องมองว่ามันสวยเหมือนกัน”

moo cow

ด้วยความชอบงานไลท์ติ้งบวกการคาดการณ์การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค SUR จึงส่งคอลเลกชั่นเข้าสู่ตลาด อย่าง Miss Moo is not a Coward โคมไฟรูปวัวที่มีจุดเด่นที่ขาเล็กๆ และ Mister Clear Mind งานปั้นรูปผู้ชายมีหนวด ที่ได้ไอเดียจากกระแสฮิปสเตอร์ ซึ่งเป็นงานศิลปะแบบตัดทอนที่ทำให้งานดูน่าสนใจ โดดเด่น และแตกต่างจากคนอื่นๆ

“เราไม่ได้ทำแบบธุรกิจจ๋า เราทำทีละชิ้นซึ่งมันเป็นงานศิลปะจริงๆ ที่เราตั้งใจทำมันในแต่ละชิ้น แล้วเราก็สนุกและมีความสุขมากกว่าที่จะทำไปเยอะๆ แล้วเครียด เราได้เงินแต่เราไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร ขอแค่ให้มันเป็นงานศิลปะอยู่เราก็ทำได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อ เพราะเราตัดสินใจแล้วว่าเราจะเลือกความสุข มีช่วงหนึ่งที่เรางก พอทำมาแล้วมันขายได้ เราก็อยากได้อีก พยายามทำให้มากขึ้นแต่มันก็ไม่ได้มากกว่าเดิม สุดท้ายแล้วเราก็ตัดสินใจทำงานออกมาให้ได้ดีดีกว่า พรีมเชื่อว่าคนต้องชอบเหมือนเรา แค่เขาเห็นคุณค่าและยินยอมที่จะจ่าย แค่นี้ก็รู้สึกประสบความสำเร็จแล้ว” คุณพรีมกล่าว

misterclearmind blackmarble 2

สำหรับคุณพรีมนิยามคำว่า ศิลปะสำหรับเธอไม่มีผิดมีถูก มันอยู่ที่ว่าใครจะชอบแบบไหน รวมถึงอยู่ที่คนทำ ซึ่งคนที่มองจะมองว่ามันสวยไม่สวยก็แล้วแต่ เพราะคนบนโลกนี้มีศิลปะอยู่ในตัวเองทุกคน ไม่ว่าจะนักธุรกิจหรือคนขายข้าวแกง ศิลปะมันอยู่รอบตัวเราในทุกอณูอยู่แล้ว มันไม่มีบรรทัดฐานตายตัวว่าอะไรคือศิลปะที่สวย เพราะศิลปะมันคือมุมมองของคน อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือความสุขกับการทำงาน

“เราต้องมีความสุข ไม่ว่าทำอาชีพอะไรก็ตาม คนเราถ้าไม่หยุดทำวันหนึ่งมันต้องประสบความสำเร็จ ในการที่จะไม่หยุดทำเราก็ต้องมีความสุขกับมัน แต่ถ้าเราไม่หยุดทำ เราอยู่กับแบบฟุ้งๆ ไปตลอดชีวิต มันประสบความสำเร็จแต่ไม่มีความสุขมันก็ไม่ได้ ต้องมีความสุขและไม่หยุดทำด้วย อย่างพรีมเริ่มขายมาปีหนึ่ง แล้วผลตอบรับดีขนาดนี้ถ้าหยุดทำมันเสียดายเหมือนกัน เพราะเราก็เริ่มเห็นแล้วว่ามันเป็นไปได้ และเราก็มีความสุขที่จะอยู่กับมัน อันนี้สำคัญ วันหนึ่งถึงเรารู้สึกเหนื่อย แต่เราก็โอเคไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่ใช่ เรามีความสุขที่จะได้ทำ เราอยากเห็นมันเสร็จ อยากเห็นมันสวย อันนั้นคือความสุขของเรา ถ้ามีความสุขเราก็ไม่หยุดทำ”  

“การที่คนหันมาตามเทรนด์มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดนะ เพราะเขามองว่ามันสวยไง ซึ่งอย่างสไตล์ลอฟต์เราก็ชอบนะ แต่ไม่รู้ว่าคนที่อยู่กับมันจริงๆ เขาจะเบื่อหรือเปล่า แต่ถ้าเขาชอบมันจริงๆ มันก็ไม่ผิด มันก็สามารถอยู่ได้ไปยาวๆ แต่มันก็อยู่ที่คนแหละว่าจะเบื่อเมื่อไร ถ้าเขาชอบจริงๆ มันก็ไม่มีวันเบื่ออยู่แล้ว”

จีรชา สมรรคบุตร

Leave A Comment