RAIN OF LIGHTS: LOUVRE MUSEUM ABU DHABI

นครพิพิธภัณฑ์ ประติมากรรมแห่งอาภา

TEXT: กชพร นฤมาณนลินี
PHOTO: Mohamed Somji

ท่ามกลางความแห้งแล้งของทะเลทรายและแสงแดดอันร้อนแรงของนครอาบูดาบี เมืองหลวงแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ Louvre Museum นครพิพิธภัณฑ์บนโอเอซิสเทียมแห่งใหม่ ออกแบบโดย Jean Nouvel สถาปนิกชาวฝรั่งเศส พร้อมที่จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2017 เป็นต้นไป

Louvre Abu Dhabi เป็นพิพิธภัณฑ์ Louvre แห่งแรกและแห่งเดียวที่ได้รับสิทธิ์การก่อตั้งขึ้นนอกเหนือจากที่กรุงปารีส เพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ไมตรีด้านวัฒนธรรมระหว่างประเทศฝรั่งเศสและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยทางรัฐบาลของประเทศฝรั่งเศสได้อนุญาตให้รัฐบาลของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยืมวัตถุโบราณจากพิพิธภัณฑ์ Louvre Paris ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของทวีปตะวันออกกลางตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงสมัยปัจจุบันมาจัดแสดงที่ Louvre Abu Dhabi อย่างถาวร ท่ามกลางห้องนิทรรศการ 23 แห่งเรียงตาม 12 อนุกรม

ในเชิงการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม Jean Nouvel ได้แสวงหาแรงบันดาลใจในการออกแบบ Louvre Abu Dhabi จากการศึกษาสถาปัตยกรรมพื้นเมืองของชาวอาหรับ โดยเฉพาะเมดินา และการตั้งถิ่นฐานชั่วคราวกลางทะเลทรายที่ต้องพร้อมที่จะอพยพจากภัยธรรมชาติ อาทิเช่น พายุทราย และการรุกรานจากเผ่าต่างๆ ซึ่งไอเดียเหล่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของมโนทัศน์ที่เนรมิตร Louvre Abu Dhabi ให้เป็น “นครพิพิธภัณฑ์กลางทะเล” อันประกอบไปด้วยตัวอาคารเตี้ยสีขาว 55 ตึก ภายใต้โดมเหล็กสแตนเลสขนาดกว้างถึง 180 เมตรอันเป็นจุดเด่นของนครพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อีกด้วย

โดมเหล็กสแตนเลสนี้ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษจากโครงเหล็กที่ซ้อนกันและสานสลับไปมาถึง 8 ชั้น โดย 4 ชั้นด้านนอกโดนแยกออกจาก 4 ชั้นด้านในด้วยเสาเหล็กสูง 5 เมตร ลวดลายทางเรขาคณิตของโดมเหล็กนี้ทำหน้าที่กรองแสงและหักเหแสงทั้ง 8 ชั้น เพื่อให้แสงแดดแตกออกเป็นละอองดั่งสายฝนแต้มลงบนพื้นผิวภายในนครพิพิธภัณฑ์ก่อนที่จะหายสาบสูญไป สร้างบรรยากาศอันร่มรื่นและสงบนิ่ง เหมือนการได้หลบอยู่ในโอเอซิสกลางทะเลทราย

สถาปัตยกรรมของนครพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นการผสมผสานทั้งวัฒนธรรมพื้นเมืองและเทคนิคการก่อสร้างที่ล้ำสมัย ความสงบนิ่งของพิพิธภัณฑ์นี้ส่งเสริมให้ผู้เยี่ยมชมได้เพลิดเพลินไปกันความเปลี่ยนแปลงทางปฏิสัมพันธ์ระหว่างแสงอาทิตย์ โดมเหล็ก ทะเล และ พื้นดิน ได้อย่างลงตัว

Leave A Comment