LITTLE HOUSE IN MEMORIES

04

บ้านหลังใหม่ที่คุ้นเคย

Text: พีรยา เชื้อสุนทรโสภณ
Photo: ฉัตรชัย เจริญพุฒ
Architect: ประเสริฐ ชัยสิทธิฤกษ์กุล (Another.ton@gmail.com)

เราทุกคนล้วนเติบโตขึ้นมาพร้อมความทรงจำต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะสุข เศร้า ดีใจ หรือเสียใจ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ผูกพันอยู่ในความรู้สึก เช่นเดียวกับความทรงจำต่างๆในบ้านหลังน้อยย่านวิภาวดีหลังนี้ที่ผ่านเรื่องราวต่างๆมานานกว่า 50 ปี ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ที่กลายเป็นความทรงจำอันล้ำค่าของคุณอ้อ-ภุมมรี บวรวิวุฒิ และคุณต้น-ประเสริฐ ชัยสิทธิฤกษ์กุล Design Director แห่งบริษัท Whitespace ที่แม้ว่าหน้าตาของบ้านจะเปลี่ยนไปบ้างแล้วก็ตาม

“ภาพแรกที่คิดไว้ว่าจะสร้าง หน้าตาจะเป็นกล่องโมเดิร์น มี 3 ชั้น แต่เราก็ดีใจที่ไม่ได้ทำอย่างนั้น เราแค่จับเอาการรีโนเวตเป็นจุดเด่นและทำให้มันอบอุ่น มันได้เห็นทั้งของเก่าและของใหม่เราเลยรู้สึกว่าบ้านมันมีชีวิต และเราก็ยังไม่รู้สึกเคอะเขินในการยัดของเข้าไป เพราะมันยังคงเป็นบ้านเก่าที่เราสามารถใส่อะไรเข้าไปก็ได้” ประเสริฐ ชัยสิทธิฤกษ์กุล

01จากโครงสร้างเดิมที่เป็นบ้านไม้ที่ค่อนข้างเก่าและผุพัง เปลี่ยนมาใช้เมแทลชีตสีดำ
ซึ่งเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบา มาเสริมภายนอกให้บ้านดูมีคาแร็กเตอร์มากขึ้น


บ้านไม้ 2 ชั้นหลังนี้เป็นบ้านของคุณปู่คุณย่าของคุณอ้อ ซึ่งอยู่มาตั้งแต่เกิด ด้วยความที่บ้านมีอายุหลายสิบปีแล้ว ทำให้บ้านหลังเดิมค่อนข้างทรุดโทรม พอฝนตกก็ทำให้น้ำท่วม และยังมีเรื่องของฟังก์ชันที่ไม่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ จึงต้องการที่จะรีโนเวตบ้านให้ใช้งานได้ดีขึ้น โจทย์คือการเน้นที่ฟังก์ชันการใช้งานของทุกคนในบ้าน ทั้งห้องนอนของปู่ย่าคนละห้อง ห้องน้ำของคุณอ้อ ชั้นหนังสือของคุณต้น รวมถึงการนำเฟอร์นิเจอร์เก่ามาดัดแปลงใหม่ เป็นต้น แล้วจึงค่อยนำมาออกแบบและจัดวางในพื้นที่แต่ละส่วน

คุณต้นเล่าว่า “ภาพแรกที่คิดไว้ว่าจะสร้าง หน้าตาจะเป็นกล่องโมเดิร์น มี 3 ชั้น แต่เราก็ดีใจที่ไม่ได้ทำอย่างนั้น เราแค่จับเอาการรีโนเวตเป็นจุดเด่นและทำให้มันอบอุ่น มันได้เห็นทั้งของเก่าและของใหม่เราเลยรู้สึกว่าบ้านมันมีชีวิต และเราก็ยังไม่รู้สึกเคอะเขินในการยัดของเข้าไป เพราะมันยังคงเป็นบ้านเก่าที่เราสามารถใส่อะไรเข้าไปก็ได้ แล้วมันมีชีวิต มีคาแร็คเตอร์กว่า เราไม่อยากรีโนเวตให้ดูกริบ มันจะไม่ดูเนี้ยบทั้งหมด ด้วยมันเป็นไปได้ยากเพราะโครงบ้านเป็นบ้านเก่า โครงไม้บางทีเบี้ยวหรือทรุดไม่เท่ากัน เราเลยคิดว่าจะทำอย่างไรให้มันไม่เนี้ยบแต่มีคาแร็คเตอร์”

จากบ้านไม้ทั้งหลังได้ถูกรื้อและปรับปรุงพื้นที่ใหม่เกือบทั้งหมด ภายนอกบ้านเปลี่ยนมาใช้เมแทลชีตสีดำที่มีน้ำหนักเบามาเสริมให้บ้านมีคาแร็กเตอร์ ส่วนภายในห้องนั่งเล่นได้นำพื้นชั้นบนออก เพื่อเปิดให้บ้านดูโปร่งโล่ง และติดกระจกบานใหญ่ให้บ้านมีความสว่างมากขึ้น นอกจากนี้สิ่งที่โดดเด่นอย่างมากคือชั้นหนังสือขนาดใหญ่ ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้มีการทำขยายเพิ่มออกมา พร้อมย้ายบันไดจากกลางบ้านมาวางเป็นจุดนำสายตาจากชั้นล่างสู่ชั้นบนได้อย่างลงตัว ส่วนเสาหรือคานที่เป็นตัวโครงเดิมยังคงมีให้เห็น เสริมทัพด้วยการนำอิฐ ไม้ และเหล็กมาช่วยดามบ้านในบางส่วนให้มั่นคงมากขึ้น

“ที่เลือกวัสดุอิฐ ไม้ เหล็กเป็นวัสดุหลักเพราะความชอบส่วนตัวด้วย เรารู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ดูสวยด้วยตัวเอง มีเท็กซ์เจอร์ด้วยตัวเอง แล้วก็ประหยัดนิดนึง (หัวเราะ)” ประเสริฐ ชัยสิทธิฤกษ์กุล

02บ่อปลามุมโปรดของคุณปู่ เป็นพื้นที่ที่มาสร้างทีหลังเพื่อให้เป็นพื้นที่ผ่อนคลายหน้าบ้าน และทำให้บ้านไม่ดูแห้งเกินไป


“ที่เลือกวัสดุอิฐ ไม้ เหล็กเป็นวัสดุหลักเพราะความชอบส่วนตัวด้วย เรารู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ดูสวยด้วยตัวเอง มีเท็กซ์เจอร์ด้วยตัวเอง แล้วก็ประหยัดนิดนึง (หัวเราะ) บ้านดีไซเนอร์ก็อย่างนี้แหละครับต้องคิดเรื่องงบนิดนึง บ้านลูกค้าไม่เป็นไร (หัวเราะ) ซึ่งในเรื่องวัสดุเราก็ต้องคิดนอกจากเรื่องความสวยด้วย อย่างพวกเหล็กก็จำเป็นใช้ในการช่วยดามบ้านบางส่วน หรือพื้นที่สูงมากๆอย่างกระจกเราใช้เหล็กกล่องดามเป็นตัวโครงของอิฐ เพราะเราไม่ได้ลงเข็มเพิ่ม ทุกอย่างต้องมีฟังก์ชั่นและความงามของมันเอง” คุณต้นกล่าว

เมื่อเราถามถึงการมีส่วนร่วมของคุณอ้อ เธอเล่าเสริมว่า “ทางอ้อเองก็มีส่วนช่วยในการออกความคิดเห็นด้วยเหมือนกัน เพราะเราคิดว่าผู้ชายกับผู้หญิงจะมีความชอบไม่เหมือนกัน ซึ่งอ้อก็เชื่อในสไตล์ของพี่ต้นนะว่าต้องออกมาดี แต่บางทีเราต้องอยู่ด้วย บางอย่างมันอาจดูแข็งไปเขาก็จะปรับให้ เรามาเจอกันตรงกลาง ไม่ดิบไปและก็ไม่ผู้หญิงจ๋า อย่างห้องน้ำเราก็เป็นคนเลือกวอลเปเปอร์เอง โจทย์อ้อคือต้องมีความเป็นผู้หญิงที่เท่นิดนึง ซึ่งก่อนหน้านี้อ้อไม่ชอบที่กำแพงเป็นปูน เราเลยขอเป็นวอลเปเปอร์แบบเท่ๆไม่ก็วินเทจแทน”

“ผู้ชายกับผู้หญิงจะมีความชอบไม่เหมือนกัน ซึ่งอ้อก็เชื่อในสไตล์ของพี่ต้นนะว่าต้องออกมาดี แต่บางทีเราต้องอยู่ด้วย บางอย่างมันอาจดูแข็งไปเขาก็จะปรับให้ เรามาเจอกันตรงกลาง ไม่ดิบไปและก็ไม่ผู้หญิงจ๋า” ภุมมรี บวรวิวุฒิ

บ้านวิภาวดี1คุณต้นและคุณอ้อกับอิริยาบทสบายๆ ในวันพักผ่อน


บ้านวิภาวดี2คุณอ้อกับมุมเคาน์เตอร์หินอ่อน


นอกจากนี้คุณต้นยังได้เก็บเกี่ยวเอาเรื่องราวการใช้ชีวิตมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบบ้าน ทั้งการไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆแล้วเก็บเอาของที่ประทับใจกลับมาตกแต่งบ้าน หรือแม้แต่การเลือกนำเฟอร์นิเจอร์เก่ามาดัดแปลงใหม่ อย่างตู้กับข้าวเก่านำไปทาสีขาว เพื่อนำมาทำเป็นตู้เก็บของ หรือโต๊ะกลางในห้องนั่งเล่นก็มาจากโต๊ะเขียนหนังสือของคุณอ้อนำมาตัดขาทำเป็นโต๊ะส่วนกลาง ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ใหม่ที่สั่งทำขึ้นมา  ทั้งโต๊ะทานข้าวไม้ และเคาน์เตอร์ครัวหินอ่อน ที่ความคอนทราสช่วยขับให้ดูโดดเด่นขึ้น เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เกิดจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในบ้าน

ซึ่งคุณต้นได้ทิ้งท้ายให้ฟังไว้ว่า “การทำบ้านให้คนอื่นมันง่ายตรงบางทีเรามีคนที่ตัดสินใจให้ แต่พอเราทำเองมันจะมีรายละเอียดที่เยอะกว่า เราจะคิดเยอะ บางทีก็คิดน้อย (หัวเราะ) แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของฟังก์ชันกับตัวเรามากกว่า ซึ่งมันก็จะทำได้ง่ายขึ้น ความจริงแล้วก็เหมือนกับเราได้ทดลองไปด้วย ได้ลองทำอะไรที่อยากทำแต่ไม่เคยทำ ในขณะเดียวกันเราก็ได้นำความรู้จากทุกๆงานที่เราทำเก็บมาใช้จนมันส่งผลเป็นบ้านหลังนี้”

03
กำแพงอิฐก้อนตัดรับกันได้ดีกับประตูบานเลื่อน สร้างเป็นมุมสำหรับปลูกต้นไม้กระถางเล็กๆ


05
พื้นที่นั่งเล่นโดดเด่นด้วยโซฟาสั่งทำพิเศษ แม้จะมีขนาดใหญ่แต่เวลานั่งแล้วพอดี ส่วนด้านหลังเป็นชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่ เป็นส่วนที่ขยายเพิ่มจากพื้นที่บ้านเดิม


04พื้นที่ชั้นล่างถูกแบ่งสัดส่วนได้อย่างลงตัว จากโซนห้องนั่งเล่น เข้าสู่พื้นที่ทานอาหาร และห้องครัว อันโดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์หินอ่อนคอนทราสต์กับความดิบจากโครงสร้าง ที่ช่วยขับให้ครัวดูเด่นยิ่งขึ้น


07โต๊ะกลางเดิมเคยเป็นโต๊ะเขียนหนังสือของคุณอ้อ คุณต้นนำมาตัดขาออกแล้วใส่ล้อเพิ่ม


08หนึ่งในมุมโปรดของคุณต้นที่ใช้สำหรับทานข้าว หรือนั่งทำงานร่วมกับคุณอ้อแล้ว ยังเป็นพื้นที่ในการสังสรรค์กับเพื่อนๆอีกด้วย ส่วนทางด้านขวาเป็นประตูบานเฟี้ยมสำหรับห้องน้ำของคุณอ้อ


09
ห้องน้ำที่คุณอ้อรีเควสว่าต้องเป็นสไตล์ผู้หญิงเท่ กระจกบานใหญ่จากร้านขายของวินเทจรับกับวอลเปเปอร์สีเขียว เป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณอ้อและลูก


10ห้องน้ำของคุณปู่คุณย่า เป็นดีไซน์เรียบง่าย ด้วยไม้ หินอ่อน และกระเบื้อง รวมทั้งต้องมีมือจับให้ใช้ได้สะดวก


11ตู้ไม้เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเก่าที่นำมาดัดแปลงเป็นตู้เก็บของ ส่วนด้านหลังเป็นห้องนอนของคุณปู่คุณย่า


12จากบันได้กลางบ้านย้ายมาส่วนริมชั้นหนังสือ ทอดนำเข้าสู่ส่วนทางเดินที่ทำเป็นหิ้งพระ


13ห้องนอนแบบโมเดิร์น มีการเปลี่ยนตำแหน่งหน้าต่างใหม่ ส่วนเตียงนอนจากอิเกียที่คุณต้นนำหัวเตียงที่สั่งทำมาผสมผสานให้ดูมีดีเทลมากขึ้น พร้อมด้วยมุมทำงานและมุมนั่งเล่น


14โต๊ะแต่งตัวหินอ่อนที่นำลวดลายวอลเปเปอร์มาติด ปิดซ่อนกระจกด้านหลังด้วยบานเลื่อน


15ห้องเสื้อผ้าที่นำตู้กับข้าวเก่ามาทำสีใหม่ พร้อมทำตัวบานให้เป็นหวายและทำมือจับใหม่ ด้านในเป็นโต๊ะจักรเย็บผ้าสำหรับที่คุณย่าใช้ทำงาน


“การได้อยู่ในสิ่งที่คุ้นเคยมันทำให้มีความสุข ซึ่งถ้าตอนนั้นตัดสินใจทุบ บ้านหลังนี้ก็จะหายไปเลยซึ่งเราก็จะรู้สึกเสียดาย การรีโนเวตบ้านเก่ามันจึงไม่ได้เป็นการทิ้งความทรงจำเก่าๆไป แต่เรายังสามารถเก็บความทรงจำทั้งหมดไว้ จากสิ่งที่เรามองเห็นได้อย่างเสาต้นนี้เป็นเสาบ้านเก่านะ คานไม้ก็ยังทำให้นึกถึงความทรงจำตั้งแต่รุ่นปู่ย่า มันจึงเป็นอีกสเน่ห์หนึ่งของการรีโนเวต”
ประเสริฐ ชัยสิทธิฤกษ์กุล

 

Leave A Comment