KÖ-BOGEN DÜSSELDORF


เส้นสายที่ไม่หยุดนิ่งของ Kö-Bogen Düsseldorf

ปลายสุดด้านทิศเหนือบนถนน Koenigsallee หรือ King’s Avenue ถนนสายช้อปปิ้งที่รวมแบรนด์แฟชั่นชื่อดังระดับโลก คือพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับสวนสาธารณะ Hofgarten เซ็นทรัลปาร์คกลางดาวน์ทาวน์ของดุสเซลดอล์ฟ  เมืองธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุดในเขต North Rhine-Westphalian ของประเทศเยอรมนี พื้นที่บริเวณ Jan-Wellem-Platz แห่งนี้ได้รับการปรับปรุงออกแบบให้กลายเป็นอาคารสรรพสินค้า ร้านอาหาร และสำนักงานแห่งใหม่ Kö-Bogen  ซึ่งวางศิลาฤกษ์และเริ่มก่อสร้างในปี 2011 จนแล้วเสร็จเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา โดยเจ้าของโครงการคือ Die developer Projektentwicklung GmbH

อาคารแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวอเมริกัน Daniel Libeskind แห่ง Studio Daniel Libeskind, New York ตัวอาคารได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงฟรีฟอร์มลื่นไหล เพื่อให้เป็นจุดเชื่อมต่อเปลี่ยนผ่านพื้นที่ระหว่างสวนและเมือง ตัวอาคารแบ่งเป็น 2 ตึก เชื่อมต่อกันด้วยผืนหลังคาที่ไหลต่อเนื่องกัน สร้างพื้นที่ครบวงจรทั้งสำหรับการชอปปิ้งและการทำงาน โดยโครงการนี้ยังมีการขุดอุโมงค์รถรางสายใหม่ เพื่อจะเชื่อมต่อไปยัง the Schadowplatz ถนนสายช้อปปิ้งที่อยู่นอกเส้นทางรถรางมาตั้งแต่ปี คศ. 1980 อีกด้วย

เส้นสายบนผนังอาคาร Kö-Bogen นั้นน่าสนใจมาก  สถาปนิกเลือกใช้ทั้งเส้นตรงและเส้นโค้ง ในการแบ่งกระจกช่องแสงบนระนาบผนัง ให้เกิดเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่หลากหลาย เส้นตรงนั้นตั้งใจสื่อถึงลักษณะความเป็นเมืองสมัยใหม่ของดุสเซลดอล์ฟ ซึ่งแน่นอนว่าเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับเส้นสายของอาคารร้านรวงที่หรูหราบนถนน Koenigsallee ส่วนเส้นโค้งก็ตั้งใจสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดการไหลของ Space ที่เชื่อมโยงกับสายน้ำรอบสวน Hofgarten ที่พาดผ่าน

โดยช่องเปิดระบายอากาศของอาคาร Kö-Bogen นั้นไม่ได้อยู่ที่กระจกช่องแสง (ซึ่งทั้งหมดเป็นกระจกติดตาย) แต่จะซ่อนตัวอยู่ที่ส่วนทึบของผนัง และการเปิดช่องระบายกาศนั้นใช้วิธีการเลื่อนช่องผนังทั้งชิ้นให้ยื่นออกมาด้านนอกอาคาร

อีกสิ่งที่การออกแบบอาคารแห่งนี้ทำได้อย่างยอดเยี่ยมคือ การออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของสวน Hofgarten รูปทรงอาคารที่โค้งมนทำให้เกิดทางเดินที่ลัดเลาะไปตามสายน้ำ มีบันไดและที่นั่งพักผ่อนกลางแจ้งขนาดยาวที่เชื่อมไปสู่ตลิ่ง มีสะพานข้ามน้ำที่ใช้กระจกใสเป็นราวกันตก มีการออกแบบพื้นที่ปลูกต้นไม้ที่สวยงามลงตัว อยู่บนช่องว่างของผนัง  หลังคาของอาคาร ทั้งหมดก็ได้รับการออกแบบให้เป็น Green Roof ปลูกต้นไม้เต็มทั้งพื้นที่ ทั้งหมดนี้ยิ่งล้วนทำให้รู้สึกว่าอาคารแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นมิตรอย่างยิ่งกับธรรมชาติที่รายรอบอยู่

จากระยะไกล ภาพของท้องฟ้า และภูมิทัศน์รอบข้างที่สะท้อนลงบนผนังกระจกรูปทรงเรขาคณิตนี้สวยงามมาก นอกจากนี้แสงสะท้อนของแดด ที่เกิดจากแสงตกกระทบผนังกระจกในแต่ละช่วงเวลาของวัน ก็จะเกิดเงาสะท้อนลงบนพื้นทางเดินที่แปลกตาน่าสนใจเช่นกัน โดยจำนวนอาคาร  2 หลัง รวมพื้นที่ใช้สอยของอาคาร  40,200 ตารางเมตร มีพื้นที่จอดรถใต้ดิน : 13,500 ตารางเมตร และความสูงของอาคารคือ 6 ชั้น รวม 26 เมตร

นับได้ว่าสถาปนิก Daniel Libeskind ได้ออกแบบอาคาร Kö-Bogen ให้กลายเป็นแลนมาร์คที่สง่างามของเมืองดุสเซลดอล์ฟ เคียงคู่ไปกับถนนสายแฟชั่น Koenigsallee อันโด่งดัง และกลมกลืนอย่างยิ่งกับภูมิทัศน์อันสวยงามของสวน Hofgarten

Text & Photo : Athi A.
www.koebogen.info/de/

Leave A Comment