KLOEM HOSTEL

“ครึ้มอกเคลิ้มใจไปกับบรรยากาศชวนไกวเปล”

หากใครได้ลองเดินเล่นลัดเลาะนับไม้หมอนรถไฟ เลี่ยงจากความจอแจของบริเวณรถไฟฟ้าพญาไท เพื่อชมบรรยากาศของวิถีชุมชนสองข้างทางช่วงสถานีรถไฟพญาไท เดินไปเรื่อยๆ ก็จะได้สะดุดตากับโฮสเทลดีไซน์เท่ สีเข้มขรึมทั้งหลังที่ผสมผสานความเป็นเรือนไม้ กับโถงกระจกใสของลอบบี้ในแบบ contemporary ที่เผยให้เห็นการตกแต่งที่แสนอบอุ่นของเคลิ้มโฮสเทลซึ่งซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของชุมชนเพชรบุรีซอย 5 ซอยที่เงียบสงบ ร่มรื่นและแสนจะมีเสน่ห์

เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะเจอลอบบี้ที่มีโซนพักผ่อนอยู่ข้างๆ ตกแต่งไว้อย่างน่ารักด้วยการปูเสื่อให้ได้นั่งได้นอนเอนกายไปกับหมอนอิงใบใหญ่ พร้อมเปลญวนและกีตาร์ที่จัดวางไว้เป็นมุมต้อนรับได้อย่างอบอุ่น มาบาลานซ์ความเงียบขรึมของอาคารสีดำทั้งหลังได้อย่างลงตัว คุณแก้ม – วรรณกานต์ กิจคุณาเสถียร ผู้เป็นเจ้าของทักทายปราศรัย และพาเดินชมโซนต่างๆ โดยบอกกับเราว่า ตนเองเป็นคนในพื้นที่โดยกำเนิด เมื่อเริ่มกลับมาดู property ของที่บ้าน จึงได้มีโอกาสมาสำรวจชุมชนนี้ จึงเกิดไอเดียอยากทำโฮสเทลและเมื่อมาพบกับบ้านไม้เก่าแก่สองหลังที่เจ้าของเป็นพี่น้องกัน จึงตัดสินใจขอซื้อและสำรวจความคิดเห็นของคนในชุมชน เมื่อไม่ติดปัญหาอะไรก็ลงมือดำเนินการ โดยได้เอารั้วกำแพงของบ้านทั้งสองหลังออกแล้วสร้างสะพานเชื่อมตัวอาคารไว้ ใช้เทคนิคดีดบ้านขึ้นมาอันเป็นภูมิปัญญาแบบไทยๆ คงไว้ซึ่งไม้เก่าให้มากที่สุด ซึ่งบางชิ้นที่ต้องนำมาซ่อมแซมก็จะเน้นให้รายละเอียดเหมือนของเดิมมากที่สุด อาคารทั้งสองหลังก็จะถูกแบ่งเป็นพื้นที่ด้านล่าง ซึ่งจัดเป็นโซนห้องพัก มีโต๊ะใหญ่กลางบ้านเป็นมุมทานอาหาร มีมุมพักผ่อน และสวนกลางบ้าน ส่วนพื้นที่ชั้นบนก็แบ่งเป็นโซนห้องพักมีสะพานเชื่อมอาคารทั้งสองหลังไว้ด้วยกัน มีมุมเอนกายตรงระเบียง และที่โดดเด่นคือเปลญวนหลังใหญ่ที่ผูกยึดไว้อย่างแข็งแรง ให้ได้ลงไปนอนกลิ้งตัวกลางอากาศ สำหรับห้องพักจะแบ่งเป็นทั้งห้องรวม ห้องพักรวมสำหรับผู้หญิง มีตั้งแต่ 4 เตียงและ 6 เตียง รวมถึงใครที่มาแบบสามคนก็มีห้อง Triple room ให้ได้เลือกตามความเหมาะสม

สำหรับจุดเด่นของเคลิ้มโฮสเทล น่าจะเป็นบริบทของพื้นที่โดยรอบที่คงความมีเสน่ห์ของชุมชนไว้ ระหว่างการเดินชมห้องเราจะได้ยินเสียงนกร้อง ไก่ขันเจื้อยแจ้ว หรือแม้แต่เสียงหวูดรถไฟที่วิ่งผ่านมาเป็นระยะ ตัวโฮสเทลที่มีเสน่ห์ในความเล็กๆ น่ารัก เงียบสงบ และดูอบอุ่น บุคลิกแบบนี้ได้สะท้อนให้เราเห็นได้จากป้าแม่บ้าน พี่คนสวนที่ดูเขินอาย พูดน้อย ยิ้มเก่ง และสุภาพ หรือน้องๆ พนักงานต้อนรับที่ชวนคุย คอยดูแล และอัธยาศัยดี หรือแม้แต่คุณแก้ม เจ้าของที่เป็นกันเองและดูแลเป็นอย่างดี เมื่อเดินชมบรรยากาศโดยรอบแล้ว ก็ได้มานั่งพักทานอาหารซึ่งเป็นเซ็ทมื้อเช้าที่เอาไว้เสิร์ฟจริงให้กับลูกค้า ซึ่งล้วนน่าทานทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียวหมูปิ้ง หมูฝอย โจ๊กหมู หลากหลายและอร่อยทุกอย่างซึ่งทุกเมนูเป็นอาหารเจ้าอร่อยของพ่อค้าแม่ค้าในชุมชนที่ได้ไปคัดสรรมา นอกจากนี้ยังมีผลไม้ที่วางไว้ตามมุมต่างๆ ให้ลูกค้าหยิบทานได้เลย

ความน่ารักของโฮสเทลนี้คือพื้นที่ตรง common space ที่ทำให้คนได้มาใช้เวลาแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน เซอร์วิสที่เทียบเท่ากับโรงแรม ทว่าอบอุ่นกว่า องค์ประกอบทุกอย่างสอดคล้องกลมกลืนไปกับชุมชน เงียบสงบ ที่ไม่ต้องไปไกลถึงต่างจังหวัด เป็นอีกมุมของกรุงเทพ ที่สำคัญสามารถเดินออกไปถึงรถไฟฟ้า และแอร์พอร์ตลิ้งค์ได้เลย

ที่มาง่ายๆ ของชื่อเคลิ้ม คืออยากให้คนที่มาพักได้เคลิบเคลิ้มไปกับสถานที่ บรรยากาศที่เงียบสงบ แวดล้อมไปด้วยชุมชนที่มีเสน่ห์ ยินเสียงนกร้อง ฟังเสียงไก่ขัน นั่งมองโมงยามไหลเอื่อย จิบกาแฟแกล้มวิวชุมชนริมทางรถไฟ นักมวยตัวจิ๋วฝึกซ้อมอยู่ในค่ายมวยข้างๆ ต้นไม้ร่มรื่น ได้เห็นภาพผู้คนที่มาพัก นอนไกวเปล อ่านหนังสือ ดีดกีตาร์ จิบน้ำมะพร้าวเคลิบเคลิ้มไปกับวันพักผ่อนอย่างแท้จริง