JOINT CAFÉ & WORKSPACE


ความสุขบนผืนผ้าใบสีขาว

กระแสธารแห่งเทคโนโลยี ได้นำมาซึ่งความหวัง ความชอบ และการดำเนินชีวิตแบบใหม่ คนรุ่นแล้วรุ่นเล่ามักอยู่กับห้วงเวลาของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่เสมอ ในศตวรรษที่ 21 ใครจะเชื่อว่าโลกหมุนเร็วแค่ไหน การเกิดขึ้นของสมาร์ทโฟนระดับแอปเปิ้ล ความเป็นความตายของสตีฟ จ็อบส์ การก้มหน้าก้มตาจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์ของตัวเองตลอดทั้งวัน จนแสตมป์ต้องแต่งเพลงโอมจงเงย  หรือจะด้วยการทำงานเพียงแค่บนฝ่ามือจากศักยภาพของสมาร์ทโฟนที่เราๆ ใช้กันอยู่ ทั้งหลายทั้งปวงสรุปได้ว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน แค่มีอินเตอร์เนท สมาร์ทโฟน หรือโน๊คบุคสักเครื่อง มองหาเต้าเสียบปลั๊ก พร้อมเก้าอี้ว่าง แค่นี้การทำงานก็เดินหน้าต่อไปได้อย่างไม่หยุดยั้ง

Co-working Space คือดอกผลของยุคสมัย เมื่อไลฟ์สไตล์ของคนทำงานที่เปลี่ยนไป อาชีพอิสระเป็นนายตัวเองมีมากขึ้น เพียงมองหาสถานที่ทำงานดีๆ สำหรับค้นหาแรงบันดาลใจ การพร้อมจะแชร์พื้นที่ทำงาน พบปะผู้คนแปลกหน้า แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหลายต่อหลายเรื่อง ธุรกิจจากโอกาสนี้ยังคงร้อนแรงและสดใสอยู่เสมอ

Joint Café & Workspace มิอาจเรียกตัวเองว่าเป็น Co-working Space ได้เสียทีเดียว หากแต่ Co-working Space คือส่วนหนึ่งของมัน กลุ่มคนรุ่นใหม่ 3 คน ที่มองต่างทางธุรกิจ คนหนึ่งเป็นครีเอทีฟ โฆษณา อีกคนเป็นติวเตอร์สอนหนังสือ ส่วนคนสุดท้ายเป็นผู้เชี่ยวชาญอสังหาริมทรัพย์ ด้วยส่วนผสมที่แตกต่าง แต่มีจุดร่วมเดียวกัน นั่นคือการสร้างสถานที่ทำงานเพื่อรองรับกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ในทุกสาขาอาชีพ


อาคารจอดรถโรงแรมเอเชีย ราชเทวี ตึกเก่าที่มีศักยภาพติดรถไฟฟ้า บนชั้น 12 พื้นที่ส่วนหนึ่งขนาด 280 ตารางเมตร ถูกแปลงโฉมให้เป็น Joint Café & Workspace สีขาวสะอาดสะอ้านราวกับผ้าใบเปล่า (Blank Canvas) คือโจทย์ที่ดีไซเนอร์จาก 56th Studio รังสรรค์ขึ้นมา จากคอนเซ็ปต์ที่อยากจะเป็น ‘Workspace for All’ การเปรียบเป็นผ้าใบเปล่าจึงเกิดการตีความว่าทุกคนสามารถหอบหิ้วความเป็นตัวของตัวเองมาแต่งแต้ม หรือสร้างสีสันให้พื้นที่มีชีวิตชีวาในแบบที่ควรจะเป็น

ขณะเดียวกันสีขาวก็ยังช่วยให้ดูสบายตา สร้างบรรยากาศอันรื่นรมย์ในการทำงาน ช่วยให้พื้นที่ดูกว้างมากขึ้น  จุดประกายไอเดียในการทำงานได้ไม่ยาก ส่วนการตกแต่งแฝงรายละเอียดเล็กๆ น้อย ชวนให้เกิดความสนุกแบบ Work & Play เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ โต๊ะไม้กับเก้าอี้ขาเหล็ก ที่ดูไม่น่าจะเข้ากัน (Eclectic Style) ก็กับดูลงตัวทีเดียว ผสมกับของตกแต่งแปลกตา ลูกตระกร้อ โคมไฟแบบที่ใช้สำหรับโต๊ะพูล หรือโคมไฟแบบดิสโก้บอล พาทิชันที่เลือกเอาเน็ทโต๊ะปิงปองมาเป็นตัวกั้น  และลวดลายกราฟิกขาวดำลายเส้นง่ายๆ สไตล์ Pop Art ถูกวาดไว้อยู่ทุกพื้นที่ ช่วยให้บรรยากาศดูสนุกมากขึ้น ไม่ทางการจนเกินไป

ภายในประกอบด้วย 4 ส่วน ตั้งแต่ Café มุมกาแฟ เครื่องดื่มและของว่าง เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เพื่อให้ดูอบอุ่น และเชื้อเชิญ จากนั้นเดินผ่านประตูครึ่งวงกลม ซึ่งเดิมที่เป็นกำแพงทึบถูกทุบออกให้เป็นเหมือนประตูครึ่งวงกลม สร้างความรู้สึกเข้าสู่พื้นที่นั่งทำงาน ส่วนต่อมาตามริมหน้าต่างซึ่งเผยให้เห็นวิวจากภายนอกเป็นโซนที่เรียกว่า Conner Space สำหรับผู้ที่มาคนเดียวหรือประชุมเล็กๆ 2-3 คน โซนนี้ล้อมรอบตรงกลาง Room Space ห้องสำหรับสอนพิเศษ ประชุม สัมนา บรรยายที่มาพร้อมกระดานไวท์บอร์ด โดยดีไซเนอร์ออกแบบให้เกิดความยืดหยุ่น จากกระดานไวท์บอร์ดขนาดใหญ่ที่ทำเป็นพาทิชันกั้นระหว่างห้อง แต่สามารถเปิด-ปิด กลายเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ได้ตามจำนวนคน โซนสุดท้ายเป็นลักษณะของ Co-working Space  สำหรับผู้ที่ต้องการเช่าทำงานระยะยาว สร้างความสนุกด้วยพาทิชันที่ใช้เน็ทโต๊ะปิงปองมาเป็นตัวกั้นพื้นที่ทำงาน โซนนี้รองรับคนทำงานได้ถึง 16 คนเลยทีเดียว

หากใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศทำงาน อย่าลืม Joint Café & Workspace บนชั้น 12 อาคารจอดรถโรงแรมเอเชีย สถานีรถไฟฟ้าราชเทวี เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-22.00 น. สนใจสอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2611-1132 หรือคลิก www.jointbkk.com, www.facebook.com/jointbkk

Text : อริญชัย วีรดุษฎีนนท์
Photo : เปี่ยมพล จันทร์เปี่ยม
Design : 56th Studio

Leave A Comment