ANG SILA HOUSE

บ้านเคียงหาด อารมณ์ไทยประยุกต์

Text: Doowoper
Photo: ฉัตรชัย เจริญพุฒ
Design: Bangkok Architectural Research (b/A/R) 

จากวันวานอันหวานชื่นในวัยเด็กของ ‘นพ. นัทธพงศ์ จิรุระวงศ์’ สู่การสานฝันเนรมิตบ้านสไตล์โมเดิร์น คอนเทมโพรารีที่ยืนตัวผูกมิตรกับธรรมชาติ เผยการออกแบบสอดรับกับทิศทางลม เน้นฟังก์ชั่นที่เอื้อต่อประโยชน์การใช้สอย ผสานกับการตกแต่งที่เรียบง่ายทว่ามีสไตล์ในแบบชายหนุ่มผู้รักงานศิลปะ 

“นับเป็นความโชคดีมากๆ ที่ผมได้ที่ดินแห่งนี้มาครอง” นพ.นัทธพงศ์ ตอบทิ้งท้ายด้วยใบหน้าแต้มยิ้ม หลังจากจบบทสนทนา ขณะที่สายลมเอื่อยเย็นพัดมาเยี่ยมกาย เสมือนการกล่าวลาอันแสนอบอุ่น 

แต่… กว่าจะแล้วเสร็จ เฉกเช่นความสุขสมในบทละครท้ายเรื่อง การออกแบบก็ปาไปร่วม 2 ปี รวมถึงลงมือสร้างขึ้นจริงๆ อีก 2 ปี แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคที่ทำให้เจ้าบ้านคลางแคลงใจสักนิด เพราะเจ้าตัวต้องการสร้างบ้านสำหรับครอบครัว (เป็นของขวัญให้คุณแม่และตัวเอง) ที่ตอบโจทย์ในสิ่งที่ต้องการ ผ่านงานพิถีพิถัน ค่อยๆ คิดค่อยๆ ทำอย่างเย็นใจ 

นพ.นัทธพงศ์ จิรุระวงศ์ ปัจจุบันทำธุรกิจเปิดคลินิกความงามทั้งหมด 5 สาขา ได้แก่ นิพนธ์ คลินิก 2 สาขา ที่ชลบุรี (ซึ่งสืบทอดกิจการมาจากคุณพ่อ) และคลินิกลบรอยสัก กำจัดขน ในนาม Dr.TATTOF อีก 2 สาขาที่กรุงเทพฯ และ 1 สาขาที่พัทยา ซึ่งถือว่ายุ่งมาก… เพราะต้องทำงานทุกวัน ดังนั้นบ้านในฝันของเขาจึงค่อนข้างคิดเยอะในการเลือกสรร​ทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง

“บ้านหลังนี้ ผมได้อิทธิพลมาจากบ้านพักตากอากาศในวัยเด็ก ที่บางทราย จ.ชลบุรี ซึ่งคุณพ่อท่านได้ซื้อไว้ เสน่ห์ของมันคือเป็นที่อยู่อาศัยเลียบหาด มีสะพานทอดตัวยาว… ยื่นเข้าไปในทะเล ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ครอบครัวเราก็จะมาพักผ่อนที่นั่น จึงกลายเป็นภาพจำติดตรึงให้ผมอยากมีบ้านของตัวเองเช่นนี้นั่นเองครับ” เจ้าของบ้านเกริ่นถึงที่มา พลางอมยิ้มและพูดถึงการเสาะหาทำเล “หลังจากผมทำงานมีรายได้ระดับหนึ่ง ปณิธานบ้านริมทะเลก็เริ่มต้นทันที คิดสะระตะแล้วคือต้องเป็นทำเลที่ชลบุรี เพราะรากฐานเดิมเราอยู่ที่นี่ ผมจึงขับรถลัดเลาะไปตามชายหาด ตั้งแต่ศรีราชาไล่มาถึงอ่างศิลา เพื่อหาป้ายประกาศขายที่”

‘ขายที่ ติดต่อริมทะเล’ นี่คือใจความบนป้ายเล็กๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ในต้นไม้แทบสังเกตไม่เห็น หมอหนุ่มขยายความต่อ “เนื้อที่แห่งนี้ประมาณ 1 ไร่ ครับ ซึ่งผมซื้อกับเจ้าของกิจการร้านอาหาร ที่อยู่ข้างๆ กัน” คุณหมอชี้พิกัดพร้อมเล่าว่าเมื่อก่อนที่นี่เป็นบ้านเรือนไทยเก่าๆ รูปทรงสวย ทีแรกคิดจะรีโนเวทใหม่ แต่ด้วยไม้สักผสานกับไม้มะค่าที่ก่อร่างเป็นบ้านนั้นกลับพุ จึงถอดสลักไม้ออกเป็นชิ้นๆ และคัดเก็บไม้ดีดีไว้ เพื่อนำมาต่อเติมบ้านหลังใหม่ของเขาแทน “หลังจากนั้นผมก็ปรึกษาบริษัท Bankok Architect and Research (BAR) ที่รู้จักกันส่วนตัวอยู่แล้วมาช่วยสร้างบ้านในฝัน โดยโจทย์ที่ผมต้องการคือ… อยากได้บ้านอารมณ์ทรงไทย ใต้ถุนสูง ดูโปร่งโล่ง มีลมพัดผ่านได้ทุกมุม ฟังก์ชั่นทุกอย่างของบ้านอยู่ข้างบนทั้งหมด ทีแรกก็มีแบบให้เลือกหลากหลาย กระทั่งมาจบเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพรารี” หมอหนุ่มอธิบายพลางหัวเราะร่วน 

ด้วยที่ดินอยู่ระหว่างอ่างศิลา-บางแสน คุณหมอจึงอยากให้ตัวบ้านมีความกลมกลืนกับธรรมชาติ เกิดไอเดียคิดนำหินครกมาตกแต่ง ทว่าประเด็นนี้ต้องตกไปเพราะวัสดุนี้ที่อ่างศิลามีไม่เพียงพอ จึงเปลี่ยนแผนเป็นการนำหินแกรนิตที่มีริ้วลายคล้ายกันมากรุประดับแทนทั่วทั้งบ้าน ซึ่งก็ให้อารมณ์ตรงตามหมุดหมายผู้เป็นเจ้าของต้องการ

เมื่อเดินสนทนาพร้อมกับชื่นชมบ้านทุกซอกทุกมุม เรากลับสัมผัสได้ว่าบ้านหลังนี้ออกแบบฟังก์ชั่นมาได้เฉียบคม อาทิเช่น การดีไซน์แปลนเป็นรูปทรง L-Shape มีคอร์ทยาร์ดอยู่ตรงกลางเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่ที่อยู่อาศัย หรือ ระแนงไม้ (Facade) ที่กรุไว้รอบบ้าน ไม่เพียงช่วยบังแดด แต่องศาของช่องชั้นยังออกแบบให้มีความกว้างต่างกัน ส่งผลให้ไม่บดบังต่อการชื่นชมวิวได้จากด้านใน รวมถึงการแบ่งสเปซพื้นที่ใช้สอยยังดูเป็นสัดส่วน สร้างความเป็นส่วนตัว สามารถขึ้น-ลงชั้นบนได้สองทาง จากหน้าบ้านที่เชื่อมโยงกับโรงจอดรถและอีกทางหนึ่งคือตัวบ้านบริเวณห้องนั่งเล่น/รับแขก ที่สำคัญแต่ละจุดรอบบ้านมีไฟดาวน์ไลท์ สำหรับเปิดสร้างบรรยากาศในเวลาพลบค่ำ เผยที่อยู่อาศัยริมทะเลที่มีความโรแมนติกไม่หยอก 

  “ด้วยความที่เป็นบ้านติดทะเล สถาปนิกจึงออกแบบให้พื้นที่ภายในสามารถมองเห็นวิวของท้องทะเลได้ทุกห้อง ซึ่งถือเป็นการตีโจทย์ที่ผมรู้สึกถูกใจมากๆ และสายปาร์ตี้เพื่อนเยอะอย่างผมยังชอบการออกแบบฟังก์ชั่นใช้งานที่สามารถขึ้น-ลงได้สองทาง รวมถึงมีแพนทรี่ทั้งห้องนั่งเล่นด้านล่างและห้องดูทีวีชั้นบนให้พร้อมสรรพ รองรับกิจกรรมสันทนาการกับเพื่อนๆ ได้อย่างลงตัวทีเดียวครับ” หมอหนุ่มกล่าวเสริม 

สำหรับชีวิตอีกด้านของนายแพทย์ผู้นี้ เราเพิ่งทราบว่าเขาคือนักสะสมงานศิลปะตัวยง เพราะทุกห้องหับ ทุกพื้นที่ถูกประดับประดาไปด้วยชิ้นงานศิลปะของศิลปินขึ้นชื่อมากมาย อาทิเช่น อ.ถวัลย์ ดัชนี, อ.เฟื้อ หริพิทักษ์, ชาติชาย ปุยเปีย, ประเทือง เอมเจริญ, ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี และ เอล็กซ์ เฟซ (Alex Face) รวมถึงเครื่องเรือนทุกชิ้น (ส่วนใหญ่เป็นของแบรนด์อิตาลี) เกิดจากการที่เจ้าตัวสรรหามาเอง ค่อยๆ แต่ง ค่อยๆ เติมเรื่อยๆ จนสะท้อนคาแรกเตอร์ที่เป็นตัวเองได้อย่างชัดเจน

ขณะที่รถทีมงานเคลื่อนออกจากตัวบ้าน ประตูกำลังค่อยๆ ปิดตัวช้า… ช้า… จนสนิท ทำให้เราเห็นภาพบ้านจากภายนอกที่ดูสงบเป็นส่วนตัว ชวนนึกถึงบทสนทนาปิดท้ายที่ว่าเขาคือผู้โชคดีที่ได้ครอบครองที่ดินผืนนี้ และนั่นเป็นคำพูดที่เราเห็นด้วยทุกประการ 

 

Leave A Comment