A HOME IS HEART


บ้านเลี้ยงชีวิต 

Text : ทัดจันทร์ เกตุสิงห์สร้อย
Photo : เปี่ยมพล จันทร์เปี่ยม

ขับรถจากตัวเมืองเชียงใหม่ 20 นาที  จุดหมายปลายทางของเราคือบ้านกลางสวนสารภี หลังกะทัดรัดของสามสมาชิกผู้มีใจรักในศิลปะภายใต้ชื่อ ‘บ้านนอกแกลลอรี่’ พื้นที่สุดอบอุ่นของ คุณอ๊อด-อุทาน นามเสนา และครอบครัว ซึ่งที่มาของบ้านหลังนี้เกิดจากความชื่นชอบในรูปทรงของบ้านล้านนาโบราณของพี่ไก่ ที่อยากจะได้บ้านที่มีลักษณะคล้ายหลองข้าว (ยุ้งข้าว) ที่มีลักษณะเป็นอาคารไม้ใต้ถุนสูง ที่สร้างด้วยเสา 6 ต้น เอนเข้าหากันเลียนแบบขาช้าง โครงสร้างหลังคาใช้วิธีเจาะเพื่อเข้าเดือยปลายเสา หลังคาจั่วลาดต่ำคลุมระเบียง

พี่ไก่: เราไปเจอบ้านตัวอย่างหลังหนึ่ง ซึ่งราคาตอนนั้นคือ 4 แสนบาท ทำยังไงดี อยากได้ แต่ไม่มีเงินเลย ก็ขยันไปดู จนสนิทกับเจ้าของ เราก็เลยถามเขาว่าลดราคาหน่อยได้ไหม ซึ่งทุกทีที่ไปก็จะเจอแต่พี่ผู้หญิง จนครั้งสุดท้ายได้ไปเจอพี่เจ้าของร้านผู้ชาย ชื่อพี่วี แกก็บอกว่า “ไป พี่เตรียมเสาไว้ให้แล้ว” พี่ไก่เล่าที่มากว่าจะเป็นบ้านหลังนี้ให้พวกเราฟังด้วยความอารมณ์ดี

พี่อ๊อด: เราก็เดินตามเขาไปดู ก็เจอเสาไม้ 5 ต้น ไก่เขากระซิบกระซาบกับเรา ให้เสาขนาดนี้จะไม่ทำบ้านก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้วนะ (หัวเราะ) เราก็เลยลองใจเขาบอกไม่มีใครเขาสร้างบ้านด้วยเสา 5 ต้นกันหรอก อย่างน้อยๆ ต้องมี 9 ต้น ถ้าพี่หาให้ผมได้ ผมทำนะ เขาก็ให้ ซึ่งตอนนั้น เรายังไม่มีเงินสร้างบ้านเลย แต่มาขนาดนี้แล้ว ไม่เอาก็ไม่รู้จะยังไง

พี่ไก่: สุดท้ายพอเรากู้เงินมาซื้อที่ดินได้ เราก็ไปบอกเขาว่าจะสร้างบ้านแล้วนะ เขาก็ใจดีมากให้เสาเรามา 9 ต้นจริงๆ พร้อมกับไม้รวมจำนวนหนึ่ง ซึ่งพอถึงเวลาที่ต้องสร้างบ้านจริงๆ ปรากฏว่าจากไม้รวม เขาเปลี่ยนเป็นไม้สักให้เราหมดเลยทั้งหลัง ส่วนประตู หน้าต่าง เราเป็นคนไปเลือกเอง โดยเรามีแบบว่าอยากได้แบบไหน พี่อ๊อดวาดแบบเอง คุมงานเองหมด ส่วนปูนข้างล่างจริงๆ เราไม่อยากได้เลยนะ แต่ปัญหาคือตอนที่ไปกู้ธนาคาร เขาไม่เอาบ้านไม้ ก็เลยกลายเป็นปูนเปลือย ใช้ระยะเวลาในการสร้างประมาณ 5 เดือน จริงๆ งานไม้ใช้เวลาไม่นาน แต่มาเสียเวลาที่งานปูน เพราะช่างไม่ชำนาญในการทำ และความเข้าใจผิดเล็กๆ น้อย ที่ค่อนข้างสร้างปัญหา

พี่ไก่

พี่อ๊อด

กว่าบ้านหลังนี้จะกลายเป็น ‘บ้านนอกแกลลอรี่’ ที่แสนอบอุ่นอย่างที่เห็น พี่ไก่และพี่อ๊อดผ่านการโยกย้ายถิ่นฐาน มาแล้วถึง 2 ครั้ง จากกรุงเทพฯ ไปปราจีนบุรี และสุดท้ายที่เชียงใหม่ พี่ไก่พูดกับเราว่าบางครั้งชีวิตมันเหมือนถูกลิขิตไว้แล้ว ว่าจะต้องอยู่ หรือไม่ได้อยู่ที่ไหน

“พี่ไก่เป็นคนกรุงเทพฯ เกิดและโตที่โน่น ส่วนพี่อ๊อดเป็นคนจังหวัดปราจีนบุรี ก่อนหน้านี้เราสองคนทำงานศิลปะแก้วเป่ากันมาก่อน แต่ประสบปัญหาด้านธุรกิจจึงตัดสินใจขายบ้าน ขายรถ ขายทุกอย่าง จริงๆ เราเคยมาเชียงใหม่กันแล้วทีหนึ่ง ตอนนั้นบาหลีอายุสัก 5 เดือน แต่มาแล้วก็อยู่ไม่ได้ ก็เลยย้ายไปอยู่บ้านพี่อ๊อดที่ปราจีน ทำร้านอาหาร ทำนา ทำตุ๊กตาเป่า อยู่กัน 5-6 ปีก็มีปัญหาอีก ก็มานั่งคิดว่าจะย้ายไปอยู่ไหนดี พี่อ๊อดเขาก็ถามพี่ว่าอยากไปอยู่ที่ไหน พี่ก็เลยพูดออกไปลอยๆ ว่า “อยากไปอยู่เชียงใหม่” พวกเราก็เลยเก็บข้าวเก็บของในเช้าวันรุ่งขึ้นแล้วย้ายมาอยู่ที่นี่เลย (หัวเราะ)

พอขึ้นมาถึงความกังวลอย่างเดียวไม่ใช่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนนะ แต่บาหลีจะเรียนที่ไหนต่างหาก ซึ่งก็ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนพี่อ๊อด ซึ่งเพื่อนเขาเรียนแบบโฮมสคูลเหมือนกัน เราก็เลยพาบาหลีไปสมัครสอบ พอบาหลีมีที่เรียนทุกอย่างจบแล้ว เราจะอยู่กันยังไงก็ได้ ทีแรกก็อยู่กับเพื่อนก่อน แล้วเริ่มขยับขยายหาบ้านเช่า  จากนั้นสักระยะ เราก็เริ่มหาที่ทางในการสร้างบ้านเอง

ที่เลือกให้บาหลีเรียนโฮมสคูลเพราะเราไม่อยากให้เขาไปเรียนในสิ่งที่เขาไม่ได้อยากเรียน ซึ่งเราก็ถามเขาว่าอยากจะทำอะไร ซึ่งบาหลีเขาอยากเป็นเชฟ เราก็ให้ไปเรียนทำอาหาร ทีนี้พี่อ๊อดเขาเป็นนักดนตรี เขาก็อยากเล่นดนตรี ทุกวันนี้ก็เล่นอูกูเลเลร่วมกับพ่อได้ ส่วนวิชาอื่นๆ อย่างวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เราก็ให้เขาเรียนพอรู้ เราอาจจะตายวันนี้พรุ่งนี้ แน่นอนตอนนี้เขามีบ้าน มีสังคมแล้วละ เหนือกว่านั้นคือเขามีความรู้ที่สามารถสร้างเป็นอาชีพได้แล้ว  อย่างผ้ามัดย้อมที่เห็นในร้าน ก็เริ่มต้นจากที่พี่ไปเรียนมา แล้วนำมาสอนให้บาหลีทำ”

พี่อ๊อด: เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของเขาอย่างชัดเจน เราอยากอยู่ตรงนี้ อยากให้บาหลีเติบโตมาในสังคมแบบนี้ เพราะเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองที่ปรับวิถีที่เคยร้อนของเราให้บางลงเยอะมาก ก่อนหน้านี้เราอาจใช้ชีวิตรีบเร่งอยู่แต่ในเมือง พอมาอยู่ทีนี่ ได้ทำเกษตรอินทรีย์ ได้เล่นดนตรี กลุ่มคนที่เราอยู่ด้วย คือกลุ่มคนที่รักเชียงใหม่ และช่วยเชียงใหม่ พอมันอยู่ด้วยการช่วยเหลือกัน จากสังคมเล็กๆ ก็กระจายออกไป

นอกจากที่นี่จะเป็นบ้านไว้พักอาศัยแล้ว ยังเป็นเสมือนสตูดิโอขนาดเล็กๆ ของสามสมาชิกในการทำงานศิลปะ โดยพี่อ๊อดมีห้องทำงานเล็กๆ สำหรับปั้นตุ๊กตาล้อเลียน พี่ไก่มีช็อปขายงานผ้าและสินค้าแฮนด์เมด ส่วนบาหลี วัย 11 ขวบ รับหน้าที่เป็นคนชงเครื่องดื่มให้กับร้านน้ำเล็กๆ ที่บ้านนอกแกลลอรี่ด้วย

พี่ไก่: งานตุ๊กตามันเป็นอาชีพหลักของเรานะ เป็นงานที่เลี้ยงชีพ แต่ร้านเสื้อผ้ามันเหมือนเปิดขึ้นมาเพื่อสนองตัณหาของตัวเราเอง แค่รู้สึกว่าชอบก็ทำ มันเป็นความสุขที่เดินเข้ามาในบ้านเห็นผ้ากองๆ อยู่ จะขายได้ไม่ได้ไม่รู้ล่ะ แต่เห็นแล้วมีความสุข มันเลี้ยงตัวไม่ได้นะ แต่มันเลี้ยงชีวิตเราได้ นอกจากงานผ้าก็จะมีเครื่องเงินที่เป็นของพระบาทห้วยต้ม

พี่อ๊อด: จริงๆ มันเป็นช็อปผ้าของพี่ไก่กับบาหลี บาหลีเรียนรู้เรื่องการทำอาหาร และเล่นดนตรี ก็อยากจะมีพื้นที่เล็กๆ เอาไว้ให้เขาฝึกมือ เพราะระยะเวลาที่เขายังเดินตามสิ่งที่เขาพูดออกมา เหมือนเป็นสัญญาใจลึกๆ ในสิ่งที่เขาชอบเขาอยากทำ ซึ่งเราก็คอยดูว่าเขาจะเปลี่ยนไปเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ที่เขาเปลี่ยน เราก็ต้องปรับตามเขา จะว่าจริงจังเป็นร้านเลยมันก็ไม่จริงจังนะ

บาหลี: ร้านน้ำบาหลีจะเป็นคนทำเองทั้งหมด ยกเว้นกาแฟ พ่อจะเป็นคนชงให้ ชาเขียว ชานม บาหลีทำเองหมดเลย แล้วก็จะมีที่นั่งสำหรับลูกค้าด้านนอก และด้านใน นอกจากเครื่องดื่ม ก็มีอาหารบาหลีก็ทำเองหมด แล้วก็ขายของเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ

บางคนอาจชอบความสะดวกสบายในเมืองหลวง บางคนชอบอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ แต่สำหรับสมาชิกบ้านนอกแกลลอรี่ ความสุขเริ่มต้นจากบ้านหลังไม่ต้องใหญ่ แต่แค่มีพวกเราอยู่ด้วยกัน แค่นั้นก็สุขสุดๆ แล้ว

พี่อ๊อด: บ้านมันไม่ได้สำคัญเลย องค์ประกอบสำคัญคือคนในบ้านต่างหาก บ้านจะหลังเล็กหรือใหญ่ อันนี้มันคือการตอบสนองความต้องการของตัวเอง ที่เราเลือกสร้างจากไม้ ส่วนหนึ่งเพราะพี่ผูกพัน ที่บ้านเราทำงานไม้มาตลอด สองคือไก่เขาชอบ และสามเรามีความรู้สึกว่าอีกหน่อยคนอาจจะไม่สร้างบ้านด้วยไม้แล้วก็ได้ อย่างบ้านไม้หลังนี้ตอนที่เราอยู่มันคือบ้านไม้แรก พอบาหลีโตขึ้นมันอาจจะเป็นไม้สอง เนื้ออาจจะบางลง แต่มันจะยังคงอยู่ไว้อีกนาน

พี่ไก่: พี่โตมากับตึกแถวริมถนน รู้สึกว่าชีวิตมันวุ่นวายมาก พอมาอยู่บ้านจัดสรรก็เบื่อ ไม่ใช่อย่างที่เราต้องการ อยากทำบ้านไม้ เพราะรู้สึกว่าอยู่แล้วสบาย ที่เลือกซื้อที่ดินผืนนี้เพราะว่าที่นี่เห็นวิวดอยสุเทพ ถ้าลองขึ้นไปดูที่ชั้นสอง จะเห็นวิวดอยสุเทพเลย แล้วหน้าต่างไม้ที่นี่ก็เป็นความตั้งใจที่ไม่อยากจะให้มันมีมุ้งลวด หรือเหล็กดัด เพราะอยากเห็นวิวสวยๆ ส่วนวิธีการรักษา แรกๆ เพื่อนก็บอกว่าบ้านไม้ฝุ่นเยอะมาก ซึ่งมันก็จริงนะ แต่เราก็ปล่อย ทำเท่าที่ทำได้

พี่อ๊อด: เสน่ห์ของบ้านไม้มันอยู่ตรงนี้ล่ะ จะให้สะอาดสะอ้าน เรียบร้อยไร้ฝุ่นเลยเหมือนบ้านปูนที่คนส่วนใหญ่เปิดแอร์ปิดหน้าต่างมันเป็นไปไม่ได้ มันฝืนธรรมชาติ บ้านไม้ผิวมันบาง คนที่อยู่บางทีมันก็วูบไหว อย่างตอนหน้าฝนเสียงลม เสียงฝนสาดเรารู้หมด บ้านหนาวเราหนาว บ้านโดนน้ำเราก็เห็น รับรู้ทุกเวลา ชีวิตมันต้องปรับสภาพนะเหมือนการซื้อรถ ไม่มีบริษัทที่ไหนหรอกที่ออกแบบรถมาเพื่อคนขับเพียงคนเดียว ทุกบริษัทสร้างมา 1 รุ่นเพื่อคนเป็นแสนคนใช้งานเสมอ ซึ่งถ้าคุณไม่ปรับตัวเข้าหามันคุณก็แค่ขายมันทิ้ง แล้วก็เปลี่ยนรถไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอรถที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง ไปจนถึงสั่งประกอบ บ้านที่อยู่สบาย มันต้องเป็นบ้านที่เหมาะกับเรา และเราเหมาะกับมัน นั่นแหละ คือความพอดี

องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของบ้านหลังนี้ คือ พี่อ๊อด พี่ไก่ และน้องบาหลี

 

“พี่อ๊อดเขาก็ถามพี่ว่าอยากไปอยู่ที่ไหน พี่ก็เลยพูดออกไปลอยๆ ว่าอยากไปอยู่เชียงใหม่ พวกเราก็เลยเก็บข้าวเก็บของในเช้าวันรุ่งขึ้นแล้วย้ายมาอยู่ที่นี่เลย”

 

ประตูหน้าบ้าน ถูกดัดแปลงมาจากหน้าต่างในห้องทำงานพี่อ๊อด ที่ช่างลืมใส่ให้

‘ม่านบาหลี’ ปกคลุมจากหลังคา ทิ้งตัวลงมาทักทายเราขณะเดินผ่าน ทั้งให้ร่มเงากับบ้านและบังแดดในตอนกลางวัน

บ้านถูกสร้างให้มีลักษณะคล้ายหลองข้าว (ยุ้งข้าว) โครงสร้างหลังคาใช้วิธีเจาะเพื่อเข้าเดือยปลายเสา หลังคาจั่วลาดต่ำคลุมระเบียง

บ้านถูกสร้างให้มีลักษณะคล้ายหลองข้าว (ยุ้งข้าว) โครงสร้างหลังคาใช้วิธีเจาะเพื่อเข้าเดือยปลายเสา หลังคาจั่วลาดต่ำคลุมระเบียง

จากความเข้าใจผิดของช่าง ในการสร้าง เปลี่ยนความตั้งใจที่อยากจะทำบันไดนอกบ้านกลายเป็นบันไดบิดเอียงในมุมองศาใหม่ รับกันดีกับดีไซน์จุดพักบันได ที่พี่อ๊อดออกแบบได้อย่างพอดิบพอดี

ห้องพระถูกวางไว้ด้านนอกตัวบ้าน แรงบันดาลใจที่พี่ไก่หยิบยืมมาจากเมื่อครั้งไปเที่ยวคุ้มเจ้าบุรีรัตน์ ที่ทั้งแปลกและแฝงกุศโลบายเมื่อใครขึ้นบ้านมาเป็นต้องยกมือไหว้

ห้องนอนบนชั้น 2

จากความชอบเย็บปักถักร้อยเสื้อผ้าไว้ใช้ของตัวเอง และให้น้องบาหลี ขยับขยายจนกลายเป็นร้านสินค้าแฮนด์เมดงานผ้าขนาดเล็กๆ ของพี่ไก่ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้กับบ้านนอกแกลลอรี่

จากความชอบเย็บปักถักร้อยเสื้อผ้าไว้ใช้ของตัวเอง และให้น้องบาหลี ขยับขยายจนกลายเป็นร้านสินค้าแฮนด์เมดงานผ้าขนาดเล็กๆ ของพี่ไก่ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้กับบ้านนอกแกลลอรี่

จากความชอบเย็บปักถักร้อยเสื้อผ้าไว้ใช้ของตัวเอง และให้น้องบาหลี ขยับขยายจนกลายเป็นร้านสินค้าแฮนด์เมดงานผ้าขนาดเล็กๆ ของพี่ไก่ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้กับบ้านนอกแกลลอรี่

จากความชอบเย็บปักถักร้อยเสื้อผ้าไว้ใช้ของตัวเอง และให้น้องบาหลี ขยับขยายจนกลายเป็นร้านสินค้าแฮนด์เมดงานผ้าขนาดเล็กๆ ของพี่ไก่ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้กับบ้านนอกแกลลอรี่

ร้านเครื่องดื่มของน้องบาหลี ภายในบ้านนอกแกลลอรี่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ที่เกิดจากสามสมาชิกผลัดกันปลูก ผลัดกันดูแล

ร้านเครื่องดื่มของน้องบาหลี ภายในบ้านนอกแกลลอรี่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ที่เกิดจากสามสมาชิกผลัดกันปลูก ผลัดกันดูแล

ร้านเครื่องดื่มของน้องบาหลี ภายในบ้านนอกแกลลอรี่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ที่เกิดจากสามสมาชิกผลัดกันปลูก ผลัดกันดูแล

ร้านเครื่องดื่มของน้องบาหลี ภายในบ้านนอกแกลลอรี่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ที่เกิดจากสามสมาชิกผลัดกันปลูก ผลัดกันดูแล

ร้านเครื่องดื่มของน้องบาหลี ภายในบ้านนอกแกลลอรี่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ที่เกิดจากสามสมาชิกผลัดกันปลูก ผลัดกันดูแล

นอกจาก 3 สมาชิกที่เป็นมนุษย์ ยังมีอีกหลากสมาชิกอย่าง ‘เชลโล’ สุนัขตัวใหญ่ใจดีประจำบ้าน, ‘เชียงดา’ แมวส้มขี้เซา และแมวแม่ลูกอ่อนที่จรมาอาศัยร่มเงาความอบอุ่นของบ้านหลังนี้ด้วย

นอกจาก 3 สมาชิกที่เป็นมนุษย์ ยังมีอีกหลากสมาชิกอย่าง ‘เชลโล’ สุนัขตัวใหญ่ใจดีประจำบ้าน, ‘เชียงดา’ แมวส้มขี้เซา และแมวแม่ลูกอ่อนที่จรมาอาศัยร่มเงาความอบอุ่นของบ้านหลังนี้ด้วย

นอกจาก 3 สมาชิกที่เป็นมนุษย์ ยังมีอีกหลากสมาชิกอย่าง ‘เชลโล’ สุนัขตัวใหญ่ใจดีประจำบ้าน, ‘เชียงดา’ แมวส้มขี้เซา และแมวแม่ลูกอ่อนที่จรมาอาศัยร่มเงาความอบอุ่นของบ้านหลังนี้ด้วย

ภายในห้องทำงานของพี่อ๊อด หลากตุ๊กตาดินปั้นล้อเลียน ถูกสร้างขึ้นที่นี่และสร้างชื่อให้บ้านนอกแกลลอรี่กลายเป็นที่รู้จัก และสร้างรายได้เลี้ยงชีพให้กับสมาชิกที่เหลือ

ภายในห้องทำงานของพี่อ๊อด หลากตุ๊กตาดินปั้นล้อเลียน ถูกสร้างขึ้นที่นี่และสร้างชื่อให้บ้านนอกแกลลอรี่กลายเป็นที่รู้จัก และสร้างรายได้เลี้ยงชีพให้กับสมาชิกที่เหลือ

ภายในห้องทำงานของพี่อ๊อด หลากตุ๊กตาดินปั้นล้อเลียน ถูกสร้างขึ้นที่นี่และสร้างชื่อให้บ้านนอกแกลลอรี่กลายเป็นที่รู้จัก และสร้างรายได้เลี้ยงชีพให้กับสมาชิกที่เหลือ

ภายในห้องทำงานของพี่อ๊อด หลากตุ๊กตาดินปั้นล้อเลียน ถูกสร้างขึ้นที่นี่และสร้างชื่อให้บ้านนอกแกลลอรี่กลายเป็นที่รู้จัก และสร้างรายได้เลี้ยงชีพให้กับสมาชิกที่เหลือ

ภายในห้องทำงานของพี่อ๊อด หลากตุ๊กตาดินปั้นล้อเลียน ถูกสร้างขึ้นที่นี่และสร้างชื่อให้บ้านนอกแกลลอรี่กลายเป็นที่รู้จัก และสร้างรายได้เลี้ยงชีพให้กับสมาชิกที่เหลือ

 

Leave A Comment